ราคาทองคำพุ่งรับดอลลาร์อ่อนจะไปต่อสัปดาห์นี้ได้หรือไม่

 

Gold Bullish 

    ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ

    สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ ได้แก่ รัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ สหรัฐและจีน จีนและไต้หวัน

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

Gold Bearish 

    ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมสุดท้ายของปีนี้

    เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

ติดตามการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

ราคาทองคำ Spot สัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวน โดยในช่วงกลางสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวลงในระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ภายหลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75%-4.00% และประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงมาก 

อย่างไรก็ตามในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าภายหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งสนับสนุนมุมมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.  

ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตามในสัปดาห์นี้คือการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.  2565 การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้จะมีการเลือกตั้ง 35 ที่นั่งจาก 100 ที่นั่งในวุฒิสภาและที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 435 ที่นั่ง เนื่องจากการเลือกตั้งกลางเทอมจะมีผลต่อคะแนนเสียงของแต่ละพรรคในสภาคองเกรส ที่จะมีผลต่อการผ่านร่างกฎหมายและการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ 

ถ้าพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาการผ่านร่างกฎหมายและการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐจะทำได้ง่ายขึ้น รวมทั้งอาจจะเป็นการวัดความนิยมในประ ธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่สังกัดพรรคเดโมแครตที่จะมีผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งหน้า ซึ่งตอนนี้พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา 

อย่างไรก็ดี  ถ้ามองเข้าไปในรายละเอียดจะพบว่าพรรคเดโมแครตไม่ได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาอย่างแท้จริง เพราะมีเสียงปริ่มน้ำที่ 50 เสียงพอดี ทำให้นโยบายซ้ายจัดหลายๆ นโยบาย เช่น การลงทุนในพลังงานสะอาด ถูกปฏิเสธโดยนักการเมืองสายกลางในพรรคอย่าง ส.ว. โจ แมนชิน จากมลรัฐเวสต์เวอร์ จิเนีย และ ส.ว. เคิร์สเตน ซินีมา จากมลรัฐแอริโซนา

การเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้ถือเป็นโอกาสที่ไบเดนและพรรคเดโมแครตจะได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาอย่างแท้จริง ถ้าสามารถชิงที่นั่งมาจากพรรครีพับลิกันได้ 2 ที่นั่ง เพื่อมาทดแทนเสียงของ ส.ว. แมนชิน และ ส.ว. ซินีมา ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลสหรัฐมหาศาล รวมไปถึงแนวนโยบายที่จะออกมาในอีก 2 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตามผลโพลล่าสุดพบว่าผลการสำรวจของ RealClearPolitics พบว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหลังการเลือกตั้งกลางเทอม ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน 

ส่วนโพลล์จากเว็บไซต์ FiveThirtyEight ซึ่งใช้โมเดลคอมพิวเตอร์จำลองการเลือกตั้งกลางเทอม 40,000 ครั้ง แล้วสุ่มตัวอย่างออกมาเป็น 100 ผลลัพธ์ ผลปรากฏว่า รีพับลิกันมีโอกาสชนะสภาล่างถึง 84 ต่อ 100 และมีโอกาสชนะสภาบน 52 ต่อ 100 และจากข้อมูลสถิติการเลือกตั้งกลางเทมอนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 พบว่า พรรคของประธานาธิบดีสูญเสียที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไปถึง 17 ครั้ง จากทั้งหมด 19 ครั้ง และเสียที่นั่งในวุฒิสภา 13 ครั้ง จากทั้งหมด 19 ครั้ง ทำให้การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐในครั้งนี้ นับว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก

แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหว Sideways up  สัปดาห์นี้ติดตามการเลือกตั้งกลางเทมอสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. นี้ นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (เบื้องต้น) 

ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,650 ดอลลาร์ และ 1,640 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,700 ดอลลาร์ และ 1,710 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,500 บาท และ 29,300 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 29,800 บาท และ 29,900 บาท

ที่มา  ธนรัชต์ พสวงศ์    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ  ฮั่วเซ่งเฮง