ราคาทองคำร่วงลึกแค่ไหน ! จากการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

Gold Bullish 

    ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ

    สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ ได้แก่ รัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ สหรัฐและจีน จีนและไต้หวัน

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

Gold Bearish 

    ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย.

    การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น

    เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

ทองคำมีทิศทางขาลง จากการเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

แม้ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งจากที่เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ทั้งนี้นายเจอโรม พาวเวล เน้นย้ำเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังไม่พิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จึงกดดันตลาดทองคำให้เป็นทิศทางขาลง 

ซึ่งราคาทองคำ spot ปรับตัวลง 8.78% จากต้นปี โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นสูง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสูงมากสุดกว่า 3.82% ในปีนี้ เนื่องจากการดำเนินนโยบายเชิงรุกของเฟด ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศปรับขึ้นกว่า 2.44%   

ซึ่งราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นไปมากกว่าราคาทองคำต่างประเทศ เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วมากสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งค่าเงินบาทอ่อนค่าไปกว่า 13.06%  การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

 ขณะที่เวิลด์แบงก์ก็ออกมาเตือนถึงเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าใกล้ภาวะถดถอย จากการเปิดเผยรายงานว่าเศรษฐกิจของสหรัฐ จีน และยูโรโซนได้ชะลอตัวอย่างรุนแรง ทำให้มีโอกาสที่เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้า

จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ แม้ว่าการเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้เป็นแรงกดดันตลาดทองคำในทิศทางขาลง แต่ดูเหมือนว่าช่วงจังหวะเดียวกันนั้นเองมีความตึงเครียดอีกมุมหนึ่งที่ยังคงอยู่ นั่นคือสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และจากการที่ผู้นำรัสเซียได้ประกาศระดมกำลังทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อมจากการทำสงคราม และระดมกำลังพลจำนวน 300,000 นายเพื่อยกระดับการทำสงครามกับยูเครน

ซึ่งขณะนี้ปฎิบัติการรุกรานยูเครนล่วงเข้าสู่เดือนที่ 7 ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็สร้างแรงบวกของทองคำเล็กน้อย ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่บานปลาย แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าสงครามดังกล่าวพร้อมเป็นแรงปะทุอีกครั้งเมื่อใด 

นอกจากนี้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา 4 แคว้นในยูเครน ได้แก่ แคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ซึ่งเป็น 4 แคว้นในยูเครนที่ถูกยึดครองโดยรัสเซียและกองกำลังสนับสนุนรัสเซียได้เริ่มจัดทำประชามติเกี่ยวกับการผนวกรวมดินแดนเข้ากับรัสเซีย และแน่นอนว่าชาติตะวันตกไม่พอใจและทำการประณามการทำประชามติดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย 

การประกาศแผนการทำประชามติดังกล่าวอาจจะกลายเป็นจุดชนวนสงครามให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งต้องจับตาสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป และนอกจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนแล้ว ยังมีความขัดแย้งกรณีไต้หวัน ได้สร้างความตึงเครียดเป็นระยะและอาจทำลายความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างสหรัฐและจีน 

ขณะที่เริ่มมีความตึงเครียดเพิ่มเติมจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ตกลงในน่านน้ำตะวันออกจากเมืองแทซอน ซึ่งนับว่าเป็น การยิงขีปนาวุธครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และเป็นการยิงก่อนที่สหรัฐและเกาหลีใต้เตรียมเปิดฉากซ้อมรบกัน

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นคาดว่าเคลื่อนไหว sideways down อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำ Spot ที่ปรับลงมามาก อาจจะเริ่มดึงดูดความน่าสนใจในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากพอร์ตการลงทุน 

แนะนำหาจังหวะเข้าซื้อสะสมราคาทองคำโดยแบ่งไม้เป็นหลายไม้ ไม้แรกให้เข้าซื้อทองคำในช่วงที่ราคาทองคำยืนเหนือระดับ 1,620 ดอล ลาร์ และไม้สองให้เข้าซื้อทองคำเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงมาบริเวณ 1,600 ดอลลาร์  

ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการประมาณการครั้งสุดท้าย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนส.ค. ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. โดย Conference Board นอกจากนี้ ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ และประธานธนาคารกลางยุโรป

ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,620 ดอลลาร์ และ 1,600 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,660 ดอลลาร์ และ 1,680 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,000 บาท และ 28,800 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 29,500 บาท และ 29,700 บาท

ที่มา  ธนรัชต์ พสวงศ์    ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ  ฮั่วเซ่งเฮง