4 ปัจจัยสะท้อนราคา Bitcoin เริ่มน่าจับตามอง วิเคราะห์โดย Zipmex

ตลาดคริปโตฯ ในไตรมาส 2 ปี 2022 ได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed, การล่มสลายของ Terra, การหลุด Peg ของเหล่าบรรดาเหรียญ Stablecoin เป็นต้น สังเกตได้จากราคา Bitcoin เดือนเมษายน อยู่ที่บริเวณ 47,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีการปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำราคาต่ำสุดที่บริเวณ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน 2022 

 

นักลงทุนในตลาดคริปโตฯ ตื่นกลัวถึงขีดสุด

สาเหตุของการปรับตัวลงของตลาดคริปโตฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2022 ปัจจัยหลักเกิดจากการล่มสลายของ Terra ซึ่งเกิดจากมีการเริ่มเทขายเหรียญ UST จนเกิดการหลุดการตรึงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเกิดความเสียหายขึ้นเป็นวงกว้าง

ตัวอย่างเช่น Celsius ที่ต้องระงับการถอนชั่วคราว ตลอดจนกรณีของ Three Arrows Capital (3AC) กองทุน Hedge Fund ที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้ มีการเข้ามาลงทุนในเหรียญ LUNA จนเกิดความเสียหายด้วยเช่นกัน

 

ประกอบกับความกังวลเรื่องปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก อีกทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed และการทำ Quantitative Tightening (QT) ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันสภาพตลาดคริปโตฯ ในช่วงที่ผ่านมา

ภาพแสดงข้อมูล Crypto Fear & Greed Index 

 

จากภาพ แสดงข้อมูล Crypto Fear & Greed Index ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อ้างอิงจากเว็บไซต์ Alternative.me ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2022 พบว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค่าของดัชนี Crypto Fear & Greed Index ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำ สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นกลัวของนักลงทุนในตลาดคริปโตฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก 

 

แต่เมื่อนำราคา Bitcoin เปรียบเทียบกับเครื่องมือ Crypto Fear & Greed Index พบว่า ค่าดัชนีปรับตัวลงมาอยู่ในระดับต่ำ ราคา Bitcoin มักมีการปรับตัวสูงขึ้นหลังจากนั้น ทั้งนี้ สาเหตุอาจเกิดจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อปัจจัยที่กำลังกดดันตลาดอยู่ในขณะนั้น 

 

จับตา Active Address บ่งบอกสภาพตลาด

ภาพแสดงจำนวน Active Address อ้างอิงจาก Glassnode

 

จากภาพ แสดงจำนวน Address ที่มีการเคลื่อนไหวเฉลี่ย 7 วัน (พื้นที่สีส้ม) เปรียบเทียบกับราคา Bitcoin (เส้นสีดำ) อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Glassnode ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2022 พบว่า 

1. บ่งบอกถึงสภาวะตลาด

            ตัวเลขแสดงจำนวน Address ที่มีการเคลื่อนไหว สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนในช่วงนั้น ๆ สังเกตได้ว่า เมื่อมีผู้ที่สนใจถือครอง Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น สะท้อนออกมาจากจำนวน Active Address มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Bitcoin อยู่ในสภาวะตลาดขาขึ้นหรือตลาดกระทิง (Bull Market)

จนกระทั่งเมื่อจำนวนผู้ใช้งานทำจุดสูงสุด หลังจากนั้นราคา Bitcoin ก็มีการปรับตัวลง สาเหตุอาจเกิดมาจากมีนักลงทุนที่เข้าซื้อมาก่อนหน้า มีต้นทุนที่ต่ำและได้จังหวะในการขายเพื่อทำกำไร หรืออาจเกิดจากสภาวะตลาดในช่วง 

ตัวอย่างเช่น ในช่วงปี 2019-2020 เกิดการระบาดของ Covid-19 ทำให้ราคาสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ มีการปรับตัวลงจากความกังวลของนักลงทุน ซึ่งราคา Bitcoin ก็มีการปรับตัวลงมาด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายและมีความชัดเจนมากขึ้น จึงทำให้มีผู้สนใจเข้ามาในตลาดคริปโตฯ อีกครั้ง

 

2.  นักลงทุนสายถือยาวยังคงอยู่ในตลาด

            จำนวน Active Address ยังคงมีลักษณะเป็นขาขึ้น อาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักลงทุนที่เป็นสายถือยาวยังคงถือครอง Bitcoin อยู่ ซึ่งยังคงต้องติดตามตัวเลข Active Address ต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหลังจากนี้

 

ข้อมูลทางสถิติชี้ Bitcoin ปรับฐานประมาณ 70-80%

ภาพแสดงการปรับฐานของ Bitcoin จากจุดสูงสุด อ้างอิงจาก Glassnode

 

การปรับฐานของ Bitcoin นับตั้งแต่ต้นปี 2022 ปรับฐานไปแล้วกว่า 70% ทำให้นักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลในเรื่อง “Bitcoin Dead” กล่าวคือ กังวลว่า Bitcoin จะถึงคราวที่ต้องตายจากไป แต่เมื่อสังเกตจากสภาวะตลาดหมี (Bear Market) ในแต่ละครั้ง พบว่า Bitcoin มีการปรับฐานอยู่ที่ประมาณ 70-80% จากจุดสูงสุด ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ปี 2015 - Bitcoin ปรับฐาน 75-80% ใช้ระยะเวลา 410 วัน
2. ปี 2018 - Bitcoin ปรับฐาน 79-84% ใช้ระยะเวลา 362 วัน
3. ปี 2020 - Bitcoin ปรับฐาน 74.7% ใช้ระยะเวลา 260 วัน

 

Bitcoin อาจหยุดลงชั่วคราวจากการวิเคราะห์กราฟราคา

ภาพแสดงกราฟราคา Bitcoin อ้างอิงจาก Zipmex

 

จากภาพ แสดงกราฟราคา Bitcoin เป็นสกุลเงินบาทตั้งแต่ต้นปี 2022 อ้างอิงจากเว็บไซต์ Zipmex ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2022 พบว่า 

1.ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวห่างจาก EMA Bands ระยะสั้น

            ปัจจุบันราคา Bitcoin เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 700,000 บาท ซึ่งห่างจากเส้น EMA Bands ระยะสั้น ทั้งนี้ การที่ราคาจะกลับมาเคลื่อนไหวไปตามเส้นค่าเฉลี่ย สามารถเป็นไปได้ 2 กรณี ได้แก่ 1) ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นสู่เส้นค่าเฉลี่ย และ 2) เส้นค่าเฉลี่ยปรับตัวลงมาสู่ระดับราคาที่เกิดขึ้น

2. สัญญาณ Oversold จาก RSI

            เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2022 เครื่องมือที่ใช้วัดโมเมนตันของกราฟราคาอย่าง RSI ปรับตัวลงมาอยู่ที่บริเวณ 20 ซึ่งอยู่ในโซน Oversold หรือมีการขายมากเกินไป จึงอาจทำให้ราคา Bitcoin ในระยะสั้นหยุดลงชั่วคราว แต่ทั้งนี้ RSI ยังไม่มีการส่งสัญญาณ Divergence แต่อย่างใด

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการล่มสลายของ Terra และกรณี stETH ยังคงต้องติดตามปัจจัยเหล่านี้ต่อไป การลงทุนในสภาวะตลาดผันผวนถือว่าเป็นโอกาสและมีความท้าทายอย่างมาก 

สามารถติดตามการอัปเดตภาพรวมตลาดคริปโตฯ ต่อได้ที่รายการ The Crypto Reporters ทาง Facebook: Zipmex Thailand และ Youtube: Zipmex

  

ข้อมูลจาก : วริศรา สาระขวัญ Research Specialist Zipmex Trader 

ภาพจาก : Zipmex ,AFP