ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันที่เพิ่มขึ้น หนุนราคาทองคำ วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

Gold Bullish 

• ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
• สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ประเด็นชายแดนยูเครน

Gold Bearish 

• ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
• ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25%
• การกระจายวัคซีนโควิด-19

ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันที่เพิ่มขึ้น หนุนราคาทองคำ

ทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวระหว่าง 1,784-1,814 ดอลลาร์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางจากตลาดการเงินหลายแห่ง เช่น จีน ปิดทำการเนื่องด้วยเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณการซื้อขายยังเบาบาง แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางบวก เนื่องจากได้แรงหนุนจากประเด็นความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก ในเรื่องเกี่ยวกับยูเครน โดยความตึงเครียดที่ส่อแววระอุมากขึ้นจากการที่สหรัฐได้ส่งทหารสหรัฐ 3,000 นายเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออก ท่ามกลางความกังวลว่ารัสเซียจะโจมตียูเครน ซึ่งหากมีการสู้รบที่เกิดขึ้นจริงนั้น การต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่เป็นเพียงแค่การสู้รบเล็ก ๆ ระหว่างยูเครนและรัสเซียเท่านั้น แต่จะลุกลามกลายเป็นสงครามในยุโรป สงครามเต็มอัตราศึก ที่ไม่มีใครยอมสละดินแดนให้กัน และอาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดการเงินของหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้สถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งดันให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น รวมถึงราคาก๊าซในยุโรปที่ปัจจุบันราคาสูงอยู่แล้ว เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ถือครองสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ของโลก จึงเป็นการยิ่งตอกย้ำอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในขณะนี้อยู่แล้วในยุโรป ส่งผลต่อความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

จับตาหลายประเทศเตรียมถกแก้วิกฤติยูเครนเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้

แม้ความตึงเครียดในวิกฤติยูเครนจะเพิ่มมากขึ้น แต่ท่าทีของรัสเซียและอีกหลายประเทศก็เหมือนต้องการที่จะเปิดช่องทางการเจรจาต่อไป  ในขณะที่ประธานธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่จะมาเยือนกรุงมอสโกในวันจันทร์ที่ 7 ก.พ. นี้ เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี ก็มีกำหนดการเยือนกรุงมอสโกในวันที่ 15 ก.พ. นี้เช่นกัน ทั้งนี้ประเด็นหลัก ๆ ในการเจรจากันคือ ข้อเรียกร้องของรัสเซียเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงจากชาติตะวันตก  โดยรัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐและชาติตะวันตกเพื่อให้มีการรับประกันว่า นาโตจะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก และสหรัฐกับพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งการเจรจาดังกล่าวยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าจะสามารถช่วยลดความตึงเครียดในยูเครนลงได้หรือไม่ ในขณะที่คาดว่าวิกฤติในยูเครนอาจส่อแววต่อการเจรจาที่ยืดเยื้อต่อไป ทำให้หนุนราคาทองคำยังคงทรงตัวไม่ปรับลดลงไปมากนักจากแรงกดดันของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำมีทิศทางไม่ค่อยสดใส ซึ่งยังมีทิศทางเป็นขาลง ซึ่งหากราคาทองคำไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์ อาจทำให้ราคาทองคำปรับลดลงได้ต่อ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในสัปดาห์นี้อาจปรับตัวลดลงไม่มากนัก เนื่องจากมีแรงหนุนจากวิกฤติในยูเครนทำให้ราคาทองคำทรงตัวอยู่ได้ สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนธ.ค.  ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.  จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) และสถานการณ์ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ ประเด็นยูเครน

ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,780 ดอลลาร์ และ 1,770 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 28,200 บาท และ 28,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 28,500 บาท และ 28,600 บาท

ข้อมูลจาก: ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

ภาพประกอบ : AFP , ฮั่วเซ่งเฮง