TNN ตลาดรอคอยความชัดเจนนโยบายทรัมป์ 20 ม.ค. ชี้ชะตาทิศทางราคา

TNN

รายการ TNN

ตลาดรอคอยความชัดเจนนโยบายทรัมป์ 20 ม.ค. ชี้ชะตาทิศทางราคา

YLG ประเมินทิศทางทองคำในระยะสั้นยังได้ผลบวกจากความไมแน่นอนของนโยบายทรัมป์ ที่หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แนะเก็งกำไรในกรอบทิศทางทองคำที่นาจะแกว่งขึ้นจนกวานโยบายทรัมป์จะชัดเจน แนวรับ 2,657 - 2,639 ดอลลาร์/ออนซ์ แนวต้าน 2,692 - 2,709 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้านทองในประเทศขึ้นได้เร็วกว่าได้อานิสงส์เงินบาทอ่อน

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด (YLG) เปิดเผยว่า มองทิศทางราคทองคำในตลาดโลกช่วงนี้ได้ตอบรับทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่อาจจะมีการเลื่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นลดในการประชุมเดือนพ.ค.หรือมิ.ย. 2568 แทน ซึ่งประเด็นนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหรัฐ (บอนด์ยิลด์) เร่งตัวขึ้น และกลับมากดดันราคาทองคำ 


แต่ในคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ , อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยรายชั่วโมง และจากสภาพอากาศทีหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวที่หนาวเย็นในฝังสหรัฐอาจจะทำให้การจ้างงานนอกภาคการเกษตรต่่ำกวาทีผ่านมาและอาจต่ำกว่า 200,000 ตำแหน่ง ประกอบกับรายได้เฉลี่ยรายชั่วโมงอาจจะลดลง และอัตราการว่างงานอาจทรงตัวที่ร้อยละ 4.2  เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาจจะเป็นปัจจัยหนุนทองคำรีบาวด์ หรือ ฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงสั้น 


ส่วนปัจจัยที่ตลาดติดตาม ในประเด็นที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าทีประธานาธิบดีสหรัฐจะเข้พิธีสาบายตนรับตำแหน่งใน วันที่ 20 ม.ค.2568 นับเป็นประเด้นสำคัญที่ตลาดติดตามใกล้ชิด ซึ่งนโยบายของทรัมป์มีทั้งที่เป็นปัจจัยบวกและปัจจัยลบต่อทิศทางราคาทองคำ แต่ดูเหมือนว่าใกล้วันเข้ารับตำแหน่งท่าทีของทรัมป์จะเปลี่ยนไปและดูแข็งกร้าวมากขึ้น 


ล่าสุด ทรัมป์ประกาศอยากจะยึดคลองปานามา และเกาะกรีนแลนด์ และเปลี่ยนแคนาดาให้เป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ 

ซึ่งอาจจะมีการใช้กองกำลังทางทหารในการปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้ ว่าจะมาสร้างสันติภาพ ยติสงครามรัฐเซีย-ยูเครน และยุติสงครามในตะวันออกกลาง จึงส่งผลให้ประเด็นนี้หนุนราคาทองคำในตลาดโลกปรับขึ้น 


และในอีกนโยบาย คือ การที่ผลักดันการนำสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency อย่าง “บิทคอยน์” มาสร้างเป็นทุนสำรอง ซึ่งนโยบายด้านนี้อาจจะกลับมาเป็นประเด็นกดดันราคาทองคำได้เช่นกัน ดังนั้น พฤติกรรมและนโยบายในอนาคตของทรัมป์ถือว่ายากต่อการคาดการณ์ แม้ว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในช่วงนี้ แต่หลังการประกาศนโยบายออกมาแล้วต้องดูว่าในการปฏิบัติจริงทรัมป์จะทำอย่างไร และนโยบายนั้นๆ จะเป็นบวกหรือลบมากน้อยแค่ไหนกับทองคำ


สำหรับกรอบคาดการณ์ราคาทองคำในระยะนี้ น่าจะไซต์เวย์อัพหรือค่อยๆขยับขึ้น ดังนั้น ควรหาโอกาสซื้อถาราคาทองคำไม่หลุดแนวรับด้านล่าง 2,657 - 2,639 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นโซนเข้าซื้อ และมองแนวต้านที่ต้องระมัดระวังแรงขายที่ระดับ 2,692 - 2,709 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าไม่ผ่าน ให้แบ่งขายทำกำไรออกมาก่อน 


ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งทำให้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าทองคำในตลาดโลก จึงมองแนวรับในโซนข้าซื้อที่ 43,550 - 43,250 บาท/บาททองคำ และกรอบแนวต้านที่ 44,100 -44,400 บาท/บาททองคำ 


โดยคำแนะนำในระยะนี้ที่ใกล้การเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ ซึ่งการปรับขึ้นของทองคำได้ปรับขึ้นมาแล้วราวร้อยละ 27 ดังนั้น การปรับขึ้นของทองคำในปีนี้อาจจะไมได้ปรับขึ้นมากเหมือนปี 2567 ที่ผ่านมา รวมทั้งนโยบายการดำเนินการด้วนเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และนโยบายต่างประเทศยังมีความผันผวนและคาดการณ์ยากตามไปด้วย ดังนั้น พอร์ตการลงทุนควรมีราวร้อยละ 25-30 ของพอร์ตการลงทุนรวม โดยเน้นการจับจังหวะการลงทุนและทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว 


อย่างไรก็ดี ในปี 2568 YLG ยังมองว่าทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ จากความเสี่ยงการดำเนินนโยบายของทรัมป์ในหลายๆ เรื่อง ซึ่งเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ เสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะโตต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ภาพรวมจึงส่งผลบวกต่อทองคำในฐานะสิรนทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว ซึ่งขณะนี้ยังมองว่าทองคำยังมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่จากแรงซื้อของธนาคารกลางและนโยบายการค้าของทรัมป์ที่สงผลต่อนโยบายการคลังของหลายๆ ประเทศ มีโอกาสเพิ่มพอร์ตทองคำในทุนสำรองเพือลดความเสี่ยง ทำให้ยังมีโอกาสที่ทองคำจะปรับไปสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ได้อยู่ 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง