TNN ดอลลาร์แข็ง เศรษฐกิจแกร่ง ลงทุนสหรัฐ-ญี่ปุ่นเด่นกว่าตลาดเกิดใหม่

TNN

รายการ TNN

ดอลลาร์แข็ง เศรษฐกิจแกร่ง ลงทุนสหรัฐ-ญี่ปุ่นเด่นกว่าตลาดเกิดใหม่

เอ็กซ์สปริง มองเศรษฐกิจปี 2568 ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วโดดเดนกว่าประเทศตลาดเกิดใหม่ จากภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่า และดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่ากว่าสกุลเงินในภูมิภาค แนะจัดพอร์ตเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่น

นายภัทรนันท์ ธนียวัน ลิ้มอุดมพร ผู้จัดการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด เปิดเผยว่า มองการลงทุนในปี 2568 ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วโดดเดนกว่าประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market  ) จากนโยบายการกัดกันทางการค้า และดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีโอกาสปรับลดลง ทำให้ตลาดจะได้รับประโยชน์จากนโยบายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเต็มที่ หนุนภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่า 


และในปี 2568 เฟดยังมีโอกาสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา แม้จะน้อยกว่าคาดการณ์เดิม ส่งผลให้ดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินในภูมิภาค ดึงดูดเม็ดเงินลงทุุนจากต่างประเทศ (ฟันด์โฟลว์) ได้ดีกว่า  จึงยังแนะให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ 


เช่นเดียวกันตลาดหุ้นญี่ปุ่นทีมีแนวโน้มเติบโตดี แต่อาจจะต้องเลือกลงทุนแยกตามกลุ่มธุรกิจ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ที่ดีมนด์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์จะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ในครึ่งปีหลังของปี 2568 และโรงงนการผลิตชิปในญี่ปุ่นจะเริ่มการผลิตแล้ว เพื่อรองรับตลาดในปี 2568 บวกกับญี่ปุ่นใกล้ชิดกับทางสหรัฐ ทำให้นโยบายของทรัมป์จะมีส่วนช่วยญี่ปุ่น ดังนั้น จึงมีโอกาสที่การเปลี่ยนฐานการผลิตในจีนจะย้ายมาที่ญี่ปุ่นมากขึ้น 


ขณะที่ Emerging Market  ในปี 2568 ดูไม่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่น่าจถูกกระทบจากนโยบายของทรัมป์ค่อนข้างมาก ยกเว้นใน ตลาดอินเดียและไต้หวัน ที่ยังมีมีปัจจัยสนับสนุน จากกำลังซื้อในประเทศที่สูงที่จะมาช่วยขับเคลื่อนกำไรของบริษัทจดทะเบียน ส่วนไต้หวัน จะได้ประโยชน์จากฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์  และเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ ทำให้เป็นแหล่งลงทุนที่ยังมีแนวโน้มเติบโตไปกับเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์  ( Artificial IntelligenceAI หรือ  AI) นอกจากนี้ประเทศอื่นๆ ใน Emerging Market  เศรษฐกิจยังค่อนข้างมีปัญหา และมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยมากกว่าจากเนเฟ้อที่ทยอยปรับลดลงมารอแล้ว ส่งผลให้สกลุงเงินอ่อนค่าด้วย ซึ่งเพิ่มโอกาสที่เงินทุนต่างประเทศจะไหลออก (Capital Outflows) 


 สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนในปี 2568 ตามหลักหากรับความเสี่ยงได้ โดยหลักร้อยละ 60 ก็ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้น และร้อยละ 40 สามารถลงทุนในตราสารหนี้ เน้นตราสารหนี้ระยะสั้น แต่ก็ควรปรึกษาผู้ลงทุนเพิ่มติม หรือแบ่งลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นด้วย แต่ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงกองทุนน้ำมัน เพราะความต้องการบริโภคน้ำมันยังกลับมาไม่เต็มที่ รงมทั้งการส่งออกน้ำมันของสหรัฐที่สูงน่าจะกดดราคาน้ำมันให้ลดลงด้วย ส่วนการลงทุนในทองคำมองเป็นกลาง 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง