TNN จับตาเงินเฟ้อ ลดดอกเบี้ย คงน้ำหนักลงทุนหุ้นเทคฯ สหรัฐ

TNN

รายการ TNN

จับตาเงินเฟ้อ ลดดอกเบี้ย คงน้ำหนักลงทุนหุ้นเทคฯ สหรัฐ

บลจ.เอ็กซ์สปริงแนะจับตาดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีบขะเป็นปัจจัยชี้วัดการลงทุนระยะถัดไป ชี้เฟดยังมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยแม้จ้างงานสหรัฐยังเพิ่มขึ้น ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังเป็นไปตามที่ตลาดคาด จึงยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในสหรัฐฯ ต่อไป ส่วนการกระจายลงทุนในจีนควรรอสัญญาณกระตุ้นของรัฐบาลจีนก่อน

นายยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีโอกาสปรับลดลงในการประชุม 18 ธ.ค. 2567 นี้ โดยเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักร้อยละ 86.1 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 4.25-4.50 ในการประชุมเดือนนี้  และคาดว่ายังมีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 1 ในปี 2568  


แม้ว่ากระทรวงแรงงานสหรัฐ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. 2567 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 202,000 ตำแหน่ง ส่วนหนึ่งจากอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับร้อยละ 4.2 สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับร้อยละ 4.1 ในเดือนต.ค. 


ขณะที่ ล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ (11 ธ.ค.) โดยดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.7   เมื่อเทียบรายปี ยังออกมาสอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สูงขึ้นเล็กน้อยจากระดับร้อยละ 2.6 ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนพ.ย. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ ร้อยละ 0.2 ในเดือนต.ค. ยังไม่ได้เร่งขึ้นเร็ว  และการข้ามารับตำแหน่งของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ไม่น่าจะทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐเร็วและรุนแรง


ดังนั้น จากทิศทางดอกเบี้ยที่ยังปรับลดลง จึงเชื่อว่าจะยังเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งในตลาดสหรัฐ ยุโรป และอังกฤษ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่ม Generative AI ยังมีโอกาสเติบโตได้ และการพัฒนาในขั้นต่อไปที่ AI น่าจะยังถูกนำมาพัฒนาต่อเนื่องใน 3-5 ปีข้างหน้า ดังนั้น ในอนาคตการลงทุนในกลุ่ม AI น่าจะยังมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง จึงยังให้น้ำหนักในหุ้นในส้ดส่วนราวร้อยละ 50 ของพอร์ต และกระจายลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำและน้้ำมัน เพื่อรองรับความเสี่ยงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ส่วนหนึ่งและในปี 2568 ยังเป็นโอกาสการลงทุนอยู่


สำหรับการลงทุนในจีนจะประชุมเศรษฐกิจประจำปีวันนี้ ( 11 ธ.ค.) คิดว่าจีนยังอยู่ในทิศทางผ่อนคลายและยังมีโอกาสจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อหนุนการเติบโตให้ใกล้เคียงกับที่รัฐบาลจีนคาดที่่ระดับร้อยละ 5 ซึ่งน่าจะยังส่งผลดีต่อทิศทางการลงทุนในลงทุนในตลาดหุ้นจีนในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า แต่การเริ่มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอาจจะรอดูความชัดจนของมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลจีนก่อน รวมถึงติดตามความชัดเจนการบังคับใช้นโยบายกีดกันทางการค้าของทรัมป์ด้วย 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง