ALPHAX ทุ่ม 795 ล้าน ซื้อโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว
ALPHAX ทุ่มงบลงทุน 795 ล้านบาท เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังน้ำ "น้ำเงียบ 2 ซีไฮโดรพาวเวอร์" ในประเทศสปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 14.51 เมกะวัตต์ มองเป็นโอกาสเพิ่มรายได้ในระยะยาว
บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ หรือ ALPHAX แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัท อัลฟ่า พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์(ลาว) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อัลฟ่าพาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท น้ำ เงียบ 2 ซีไฮโดรพาวเวอร์ จำกัด (NN2C) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ 14.51 เมกะวัตต์ จำนวนรวม 1,761,297 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100,000 กีบ ในราคาซื้อขายรวม 22.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าประมาณ 795.42 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนทั้งจำนวนของทุนจดทะเบียนของ NN2C จาก AKASAYSOK Power Sole Co., Ltd. โดยบริษัทจะชำระค่าหุ้นสามัญของ NN2C ด้วยเงินสดทั้งจำนวนให้แก่ผู้ขาย
ด้าน นายกำพล ทรวงบูรณกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อัลฟ่าดิวิชั่นส์ เผยว่า การเข้าไปซื้อหุ้นของ NN2C ครั้งนี้ เนื่องจาก ALPHAX เห็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ และอัตราผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ทั้งในรูปของรายได้และกำไรในงบกำไรขาดทุนรวมของบริษัท และรายได้เงินปันผลในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการของบริษัท ทั้งนี้ในงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรสุทธิกว่า 280 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ในด้านการแข่งขันและขยายการเติบโตในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งถือเป็นนโยบายการลงทุนที่สำคัญ โดยภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ จะทำให้ ALPHAX มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เพิ่มขึ้นเป็นกำลังการผลิตรวม 29.51 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นผลมาจากซื้อกิจการในครั้งนี้ของ NN2C ที่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งมีกำลังการผลิต 14.51เมกะวัตต์ โดยมีระยะเวลาสัมปทานอายุ 40 ปี (สิ้นสุด 24 เมษายน 2605)
และสัมปทานดังกล่าวสามารถต่ออายุได้ตามกฎหมายของสปป.ลาว และการซื้อกิจการของบริษัท น้ำฮุง1 ไฮโดรพาวเวอร์ จำกัด (NH1) เมื่อไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งมีกำลังการผลิต 15.00 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากการไฟฟ้าลาว (Electricite Du Laos : EDL) ให้ APDL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทได้เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังติดตั้ง 500เมกะวัตต์ โดยได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ (MOA) ในการพัฒนาโครงการ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาภายในประมาณ 1-2 ปี ในการศึกษาและพัฒนาโครงการ
ข่าวแนะนำ