BSRC ขยับลงทุนอย่างระมัดระวัง หลังจีนใช้น้ำมันน้อยลงและค่าการกลั่นลด
บางจาก ศรีราชายอมรับค่าการกลั่นลดฉุดรายได้การผลิตและราคาขายน้ำมัน หลังจีนปรับมาใช้รถไฟฟ้าเพิ่มและเศรษฐกิจเติบโตได้น้อยลง ส่งผลต่อดีมานด์น้ำมันโลกและค่าการกลั่นไม่ดี ทำให้บริษัทระมัดระวังในการลงทุน คาดไตรมาส 4 ปีนี้ท่องเที่ยวไฮซีซันจะหนุนปริมาณการใช้น้ำมันและยอดขายในประเทศปรับดีขึ้น
นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บางจาก ศรีราชา หรือ BSRC เปิดเผยว่า หลังบางจากเข้าซื้อ บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) และเปลี่ยนชื่อมาเป็นบางจาก ศรีราชา ก็ทำให้บริษัทประสานความแข็งแกร่งกันได้มากขึ้น ทำให้บริษัทใช้ประโยชน์โรงกลั่นและปั้มน้ำมันที่มีอยู่กว่า 700 กว่าแห่งได้เต็มที่ ซึ่งปั้มทั้งหมดจะรีบรนด์เสร็จภายในปีนี้ ทำให้ปั้มบา
จากทั้งหมดจะเพิ่มเป็น 2,200 แห่ง และมีต้นทุนการขนส่งน้ำมันลดลงและครอบคลุมมากขึ้น จากการมีท่อส่งใน 2 เส้นทางคือ ลำปาง-พิจิตร และระยอง-ลำลูกกา-สระบุรี ลดการขนส่งด้วยรถยนต์ บวกกับบริษัทได้ออกหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท ไปชำระคืนหนี้ระยะยาวทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้สูงขึ้น เดิมตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีกำลังการกลั่นอยู่ที่ราว 1.3 แสนบาร์เรล/วัน ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 1.5 แสนบาร์รล/วัน ส่งผลให้บางจากมีกำลังการกลั่นสูงที่สุดในประเทศไทยเมื่อรวมกับโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง คือ เกือบ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน และบริษัทจะใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งปั้มน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil มาพัฒนาการตลาดและเพิ่มรายได้ในอนาคตด้วยการเพิ่มจุด Touch Point ทั้งนี้ ใน 3 ไตรมาสปีนี้ หลังเปลี่ยนมาเป็นบางจาก ศรีราชา บริษัทสามารถรับรู้ผลประโยชน์จากการร่วมมือกันแล้วกว่า 4,400 ล้านบาท หนุนรายได้ในอนาคต
ปัจจุบัน บางจาก ศรีราชา มีการกลั่นน้ำมันดีซลเป็นผลิตภัณฑ์หลักสัดส่วนร้อยละ 50 ถัดมาเป็นเบนซินและแก๊สโซฮอล์ มีสัดส่วนราวร้อยละ 30 ส่วนที่เหลือจะเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงการผลิตนํ้ามันอากาศยาน
อย่างไรก็ดี การลงทุนขยายธุรกิจโรงกลั่นซึ่งเป็นธุรกิจหลักในอีก 3 ปีข้างหน้ายังต้องระมัดระวังแผนธุรกิจ เนื่องจากค่าการกลั่นยังไมคุ้มค่าและราคาน้ำมันไม่เอื้อ ซึ่งในไตรมาส 3 ปีนี้ค่าการกลั่นอยู่ที่ 1.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 7.6 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยก็ปรับลดลง จากแรงกดดันที่แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันโลกอ่อนตัว โดยเฉพาะอุปสงค์จากจีนตามภาพเศรษฐกิจจีนที่เติบโตชะลอลง บวกกับพฤติกรรมของจีนที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น ส่งผลต่อการใช้น้ำมันก๊าซโซลีนของภูมิภาคลดลง แต่บางจาก ศรีราชา จะขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในประเทศทำให้ได้รับผลกระทบของสเปรดที่ต่ำลงไม่รุนแรงนัก เพราะการขายในประเทศจะได้ราคาดีกว่าการส่งออก จึงช่วยเป็นภูมิคุ้มกันค่าการกลั่นที่จะลดลงได้ชั้นหนึ่ง
สำหรับ บริษัทมีรายได้รวมที่ 57,564 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 จากปีที่แล้ว มีกำไรสุทธิลดลง 1,735 ล้านบาท หลักมาจากปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ลดลง ส่วนรายได้ 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 187,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17,115 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 แต่กำไรสุทธิลดลง 658 ล้านบาท แต่แนวโน้มในไตรมาส 4 ปีนี้้้คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะทรงตัวได้ จากอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงฤดูหนาวในยุโรป และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ขยายตัวดีขึ้น
"ก็จะส่งผลดีต่อปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศ อย่างเดือนนี้ เป็นเหมือนดือนแรกของไฮซีซัน คือ พ.ย.เริ่มเห็นสัญญาณ ของความต้องการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นมาแล้ว ไม่ว่ากลุ่มแก๊สโซฮอล์หรือดีเซล และตัวบางจาก ศรีราชาก็พยามทำให้ยอดขายเราเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และหากยอดขายต่อสถานีบริการเราเพิ่่มขึ้นมาจากปลายปีที่แล้ว จากเซนอินคอนโทรลมีการเปลี่ยนป้ายครบ เปลี่ยนสัญลักษณ์ของปั้ม ทำให้ลุกค้าไม่สับสน ซึ่งเราจะรีเบรด์เกือบเสร็จแล้ว ภายในสิ้นปีนี้เสร็จหมด ปัญหาความไม้แน่ใจสับสนของลูกค้าจะหมดไป แล้วลูกค้าก็จะเข้าใจแล้วว่าปั้มเป็นปั้มบางจากไปแล้ว จะส่งผลดีต่อปั้ม ยอดขายก็จะดีขึ้นตามลำดับ" นายบัณฑิต กล่าว
ข่าวแนะนำ