ตลท.ร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน หนุนโตยั่งยืน

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และเอกชนกว่า 200 องค์กร ร่วมแสดงพลังในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2567 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทจดทะเบียนก็เข้าร่วมด้วย เพื่อสร้างการรับรู้ให้คนในสังคมได้เล็งเห็นถึงปัญหาคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สูญเงินไม่ต่ำกว่าปีละ 3 แสนล้านบาท พร้อมชวนคนไทยทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม สร้างมิติใหม่ต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ และส่งเสริมให้ธุรกิจไทยทุกขนาดดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส โดยยึดหลัก ESG อย่างเข้มข้น

นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์ว่า ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้บั่นทอนความน่าเชื่อถือของนานาประเทศต่อประเทศไทยถึงขั้นวิกฤติ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมทั้งคนไทยทุกคน จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันเร่งฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างเร่งด่วน

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์มีนโยบายส่งเสริมเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันและให้พนักงานทุกต้องปยึดเป็นแนวปฏิบัติหรือต้องไม่มีส่วนร่วมในการให้สินบนหรือให้อะไรนลักษณะที่เข้าข่ายการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงส่งเสริมให้บริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินการด้วย

  "บริษัทจดทะเบียนที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้องดูแลโดยเฉพาะเรื่องที่เราเรียกว่า ESG คือ Environment , Social, และ Governance ซึ่งอันนี้เราให้ความสำคัญมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ให้ความร่วมมือประสารงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศโดยล่าสุดเราได้มีความร่วมมือกับทางฟุตซี่ที่จะเข้ามาช่วยในการประเมิน ESG เรทติ้ง ในเรื่องที่จะดูแลเรื่องของ E S และ G ซึ่งการต่อต้านคอร์รับชันเป้นเรื่องของ Governance ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนได้เห็นและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งตลาดได้เน้นย้ำถึงตัว G ด้วยเช่นกัน "  นายรองรักษ์ กล่าว 

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทเราให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG ค่อนข้างมาก เพราะมันมีความสำคัญต่อการแข่งขันและการทำธุรกิจ เพราะหากเรามี ESG จะสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งภาพในครึ่งแรกที่ผ่านมาธุรกิจของบริษัทก็ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง และมองครึ่งหลังปีนี้ก็จะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าไตรมาส 3 ปีนี้ยอดขายที่ดินจะเป็นไตรมาสที่สูงที่สุดของปี หลังล่าสุดเซ็นขายที่ดิน 400 ไร่ที่ชลบุรีไปแล้ว โดยปีนี้ใช้งบในการซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท จากปีนี้ทั้งปีตั้งเป้าไว้ 8,000 ล้านบาท 

 "ESG ตัว G คนเราอาจไม่ค่อยพูดถึงแต่เป้นตัวที่สำคัญที่สุด เพราะว่าบริษัทจะไปรอดไม่รอดก็คือตัวนี้ คือ ธรรมาภิบาล หนึ่งในนั้นคือการต่อต้ายการทุจริตคอรัปชันด้วย WHA กรุ๊ป เราเป็นสมาชิกต่อต่อต้ายคอรัปชันอยู่แล้วเราให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ คู่กับการทำธุรกิจของเราเลย เราไม่สนับสนุนการจ่ายคอรัปชันใดๆทั้งสิ้น" นางสาวจรีพร กล่าว