ครม.ชุดใหม่ หนุนหุ้นกลุ่มอิงงบเบิกจ่ายคึก

ภายหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีในรัฐบาล คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ประสานแจ้งให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีชุดใหม่ เตรียมความพร้อมเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย. นี้ เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน

พร้อมกันนี้ ครม.ชุดใหม่จะได้มีการนัดประชุม ครม.ทันทีในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ โดยก่อนการประชุม ครม.จะมีการถ่ายภาพหมู่ทั้งคณะ ที่สนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หลังจากที่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว ก็จะเปิดประชุม ครม. เพื่อลงมือทำงานทันที

ขณะที่ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2568 วาระที่ 2-3 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 5 ก.ย. 67 พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าโหวตผ่าน โดยคาดการณ์เสียงสนับสนุนไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง (ตามคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล) 

สำหรับ รายชื่อรัฐมนตรี “ครม.แพทองธาร 1” ประกอบด้วย รัฐมนตรีในกระทรวงด้านเศรษฐกิจ อาทิ  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม // นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน // นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง // นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

// นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง // นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น 

ด้านมุมมองการลงทุน หลักทรัพย์เอเซียพลัส มองว่า ความชัดเจนของครม.ชุดใหม่หนุนให้สุญญากาศทางการเมืองหายไป พร้อมกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะถัดไปเดินหน้าต่อ โดยนโยบายที่คาดว่าจะออกมา และเกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยตรง คือ 

1) การศึกษาแผนการขยายกองทุนวายุภักษ์ พร้อมกับมี ESG Rating AAA คือ PTT, BCP, KTB, ADVANC, SCC, KBANK, CRC, CPF, SCGP, OR

2) การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการขยายความจุสนามบินสุวรรณภูมิ และการสร้าง ENTERTAINMENT COMPLEX ครบวงจร ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ AWC CENTEL MINT ERW CPN AOT

3) การปรับเปลี่ยนนโยบาย DIGITAL WALLET โดยเสนอปรับ แจกเงินสดแก่กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการก่อน 10,000 บาท/ราย ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ MTC BAM TIDLOR TU TFG GFPT CPALL CPAXT BJC

4) คาดงบประมาณฯ ปี 2567 -68 ผ่านรัฐสภาฉลุยภายในเดือน ก.ย. 67 มองบวกต่อหุ้น CK STEC TASCO BBL SCC  SCCC

ด้านหลักทรัพย์ฟิลลิป มองว่า ในช่วงที่เข้าสู่ช่วงพิจารณางบประมาณปี 68 ซึ่งถูกเพิ่มงบลงทุนไปกว่า ร้อยละ 7.84 จากปีงบประมาณก่อน ขณะที่งบลงทุนปี 67 กลับถูกเบิกจ่ายไปต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยในปี 67 งบลงทุนถูกเบิกจ่ายไปเพียงร้อยละ 47.46 ต่ำกว่าการเบิกจ่ายเฉลี่ย 8 ปีงบประมาณย้อนหลังในช่วงเดียวกัน โดยกระทรวงคมนาคม และ กระทรวงมหาดไทยที่มีสัดส่วนงบประมาณรวมกว่าร้อยละ 40 ของงบลงทุนในปี 67 ถูกเบิกจ่ายไปเพียง ร้อยละ 50 และ ร้อยละ 46  ของงบประมาณลงทุนที่ได้รับจัดสรร ซึ่งหากเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 67 ได้ครบ ส่วนงบลงทุนที่เหลือจะมีมูลค่ากว่าร้อยละ 2.12 ของ GDP ไทยในปี 66 จึง มองหุ้นเด่นรับประโยชน์การเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน คือ CPALL AOT CK KTB SAWAD