การเมืองสมูทบาทแข็ง กดทองไทยต่ำ 4 หมื่นบาท เป็นโอกาสซื้อ
หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ชี้ทองคำในประเทศต่ำกว่า 40,000 บาทต่อบาททองคำ ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ถือเป็นโอกาสที่ไม่เห็นได้บ่อยๆ จึงมองเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสม ทองคำระยะยาวเป็นขาขึ้น
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าส่วนงานกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางทองคำในระยะถัดไปยังมีโอกาสปรับขึ้นไปแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกที่ต้องติดตาม คือ
1) อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (บอนด์) สหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับลดลงร้อยละ 3.8 ซึ่งลงมาใกล้ระดับเดิมก่อนที่ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้น
2) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่จะสะท้อนความต้องการซื้อ (ดีมานด์) ทองคำได้เพิ่มเติมจากปัจจุบันหรือไม่ หลังปัจจุบันเหลือแรงซื้อทองคำจากอินเดียเป้นหลัก
3) การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่หนุนราคาทองคำให้ปรับขึ้นได้ หลังความผันผวนทางการเมืองซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เตรียมจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ขณะที่ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยเริ่มผ่อนคลาย แต่หากเฟดลดดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0.5 เพื่อกลับเข้าสู่สมดุลเร็วขึ้น ก็อาจหนุนให้ราคาทองคำราคาแพงเกินไปหรือไม่ ยังต้องติดตาม
และ 4) สถานการณ์ความร้อนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง
สำหรับกรอบราคาทองคำโลกคาดแนวรับที่ 2,450 ดอลลาร์/ออนซ์ และมองแนวต้านที่ระดับ 2,510 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศยังแรงกดดันจากเงินบาทอ่อนค่าทำให้ราคาปรับลดลงมาต่ำกวก่า 40,000 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านมองที่ระดับ 42,000 บาทต่อบาททองคำ
โดยกลยุทธ์การลงทุนทองคำโลก ในช่วงนี้หากราคาปรับลงมาที่แนวรับก็ทยอยสะสมในแนวรับและขายในกรอบแนวต้านได้สำหรับการเทดดิ้ง ส่วนการลงทุนทองคำในประเทศ ในจังหวะที่เงินบาทแข็งค่าและกดดันทองคำปรับลดลงต่ำกว่า 40,000 บาทซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งเต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ จึงมองเป็นโอกาสเข้าซื้อ
ข่าวแนะนำ