หุ้นไทยลุ้นเด้งกลับ 1,360 จุด หากตั้งรัฐบาลใหม่เร็ว เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต
วงการตลาดทุนไทยชี้การเมืองสะดุดหุ้นไทยตกไม่มาก เนื่องจากอยู่ในโซนถูกมาก คาดดัชนีหุ้นไทยพร้อมปรับสู่ 1,360 จุด หากรัฐบาลใหม่จัดตั้งได้เร็วและทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ และ นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ระบุว่า จากกรณีที่คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พ้นตำแหน่ง มีความเสี่ยงเกิดขึ้นในแง่ของภาวะสุญญากาศทางการเมือง แม้ว่าจะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ แต่ก็อยู่ที่ว่าจะดำเนินนโยบายได้เต็มที่หรือไม่ และที่สำคัญที่สุด คือ นโยบายที่ได้ทำมาจะทำต่อเนื่องหรือไม่ หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีท่านใหม่
ส่วนผลกระทบต่อตลาดทุนไทย ถ้ามองในข้อดี หุ้นตกไม่แรง เพราะทุกคนรับสภาพแล้วว่าตลาดทุนไทยวันนี้ถูกเกินพื้นฐาน เพราะเราเป็นตลาดทุนที่เพอร์ฟอร์มได้แย่เกือบที่สุดในโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และวันนี้แรงเทขายก็ไม่น่าจะมีมาก เพราะว่าราคาหุ้นหลายๆ บริษัทก็อยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นฐานของตัวเองอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าปัจจัยทางด้านบรรยากาศทางการเมือง ปัจจัยทางด้านเซนทิเมนต์ต่างๆ ก็ยังไม่เอื้ออำนวยให้คนกล้าเข้ามาลงทุน ฉะนั้น วันนี้จึงคิดว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในบรรยากาศซึมๆ ไม่เกิดแรงเทขายมากไปกว่านี้ เพราะว่าทิศทางการเมืองอาจจะพลิกอีก หรืออาจจะมีการคุยกันไม่ลงตัว มีการเปลี่ยนขั้ว ซึ่งก็เป็นความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ มองว่า นักลงทุนยังมองว่ารัฐบาลจะเป็นขั้วเดิม เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ้าง แต่ไม่เปลี่ยนนโยบาย ก็จะทำให้ทุกอย่างสานต่อได้ สิ่งที่ต้องการจะเห็นคือความต่อเนื่อง เพราะในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีทีท่าจะฟื้นตัว ในบ้านเรากำลังซื้อก็ยังดีอยู่ รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่เหลือในระบบ 4 แสนกว่าล้านบาท ในช่วงเวลาที่อยู่เพียง 2 เดือน ก็ต้องหาวิธีการเร่งเบิกจ่ายออกมา
ส่วนกองทุน Thai ESG ที่จะเข้ามาหนุนตลาดไม่น่าจะมีผลกระทบ เพราะผ่านมติ ครม.ไปแล้ว // กองทุนวายุภักดิ์ ส่วนตัวไม่แน่ใจเพราะยังไม่ได้เข้า ครม.ก็ต้องติดตามต่อว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะทำเรื่องนี้หรือไม่
ด้าน นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี ระบุว่า การเมืองมีความชัดเจนด้านหนึ่งแล้ว คุณเศรษฐาสิ้นสุดการเป็นนายกฯ และพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอชื่อ Candidate ใหม่ คุณชัยเกษม และเลขาธิการสภาฯ นัดโหวตนายกฯใหม่ 16 ส.ค. ทำให้ความเสี่ยงเรื่อง งบประมาณปี 2568 ล่าช้า, นโยบาย Digital Wallet เปลี่ยนแปลง คลายไปบ้าง จะเป็นจิตวิทยาบวกระยะสั้นต่อ SET ระยะสั้น 1-2 วันนี้ โดยตลาดจะแกว่งตั้งฐานสลับฟื้นตัว รอติดตามผลโหวตนายกฯ โดยSET ยังอยู่ในโซนลงทุน พร้อมฟื้นตัว และหากนโยบาย Digital Wallet มี Candidate จากพรรคเพื่อไทย มองว่ามีโอกาสสูงที่เดินหน้าได้ต่อ โดยอาจล่าช้าเล็กน้อยตามงบประมาณปี 2568 แต่หากเป็น Candidate จากพรรคการเมืองอื่น มองอาจทำให้ความไม่แน่นอนนโยบายเพิ่มขึ้น
โดยมองกรอบ SET ใน 1 เดือน จะค่อยๆ ฟื้นตัวสู่กรอบ 1290-1360 จุด โดยให้เลือกลงทุนหุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์เชื่อว่าเดินหน้าต่อได้ KTB, PTT, AOT //กลุ่ม Defensive ที่มีปัจจัยขับเคลื่อน สื่อสาร ADVANC, TRUE, INTUCH // โรงพยาบาล BDMS // โรงไฟฟ้า GULF // ส่วนค้าปลีกทยอยตั้งรับ CPALL, CPAXT
ส่วนกรณีหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งให้น้ำหนักน้อย จะเข้าสู่กรณีที่จะต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ซึ่งถือเป็นกรณีเลวร้ายต่อ SET กรณีดังกล่าว เพราะทุกนโยบายที่รัฐบาลชุดก่อนวางไว้จะสะดุดทั้งหมด มองกรอบ SET ใน 1 เดือน มีโอกาสปรับฐานสู่ระดับ 1280-1250 จุด กลยุทธ์ให้เลือกหุ้น Defensive สื่อสาร โรงพยาบาล และ Global Plays กลุ่มอาหาร ชิ้นส่วนฯ
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานการแสดงความเห็นของนักวิเคราะห์ เกี่ยวกับทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ปรับลงวานนี้ (14 ส.ค.) และวันนี้ (15 ส.ค.) รวมทั้งภาวะที่เงินบาทอ่อนค่าลง ทำผลงานย่ำแย่กว่าสกุลเงินของประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยภาวะนี้นักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นในกลุ่มปลอดภัย เช่น กลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อหลบความผันผวนของตลาดช่วงนี้
ข่าวแนะนำ