TNN "โอโมดา แอนด์ เจคู" ปักไทยฐานผลิต EV l การตลาดเงินล้าน

TNN

รายการ TNN

"โอโมดา แอนด์ เจคู" ปักไทยฐานผลิต EV l การตลาดเงินล้าน

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากจีน ยังรุกทำตลาดในไทยต่อเนื่อง Chery Automobile ผู้ผลิตรถยนต์จีนรายล่าสุด โดยตั้งบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถ อีวี 2 รุ่น

รุ่นแรก คือ OMODA C5 EV ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า ที่ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุ แบตเตอรีไฟฟ้าแรงสูง 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พลังงานสูงสุด 150 กิโลวัตต์ วิ่งได้ไกลสุด 430 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มี อัตราเร่งตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ที่ 7.2 วินาที และ การชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% จะใช้เวลาประมาณ 28 นาที

OMODA C5 EV จะมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ในราคารุ่นเริ่มต้นที่ 899,000 บาท และอีกรุ่น 949,000 บาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ เป็นต้นไป

สำหรับรถอีกรุ่น คือ JAECOO 6 EV เป็นเอสยูวีออฟโรดพรีเมียม พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งรถที่นำมาโชว์ในครั้งนี้ เป็นเวอร์ชันพวงมาลัยขวา รุ่นก่อนผลิตจริง (Pre-production) และการเผยโฉในไทยครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของโลก อีกด้วย

สำหรับ JAECOO 6 EV จะมี 2 รุ่นย่อยเช่นกัน ราคาเริ่มต้นที่ 1,099,000 บาท และ 1,249,000 บาท ราคาดังกล่าว เป็นราคาเปิดตัว สำหรับกาารเปิดให้จองสิทธิ์ 1,000 คันแรกเท่านั้น และคาดว่าจะส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป 

ทั้งนี้ ราคารถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น เป็นราคาที่รวมส่วนลดแล้ว จากการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ อีวี 3.5 

คุณ ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ยื่นขอรับสิทธิทางภาษีจากมาตรการ อีวี 3.5 ไปเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากทางภาครัฐ รวมถึงได้มีการเซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูป ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักร กำลังการผลิตระยะแรกอยู่ที่ 50,000 คันต่อปี และระยะที่ 2 จะเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 คันต่อปี คาดเริ่มผลิตและประกอบรถยนต์ได้ภายในกลางปี 2568 และรถอีวี พวงมาลัยขวารุ่นแรก ที่จะผลิตในไทย คาดว่าจะเป็น JAECOO 6 EV

พร้อมกับวางเป้าหมายให้ไทยเป็นฮับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ในระยะแรกจะมุ่งเน้นทำตลาดในประเทศไทยเป็นหลักก่อน

ส่วนภาวะตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัว และการแข่งขันซึ่งรุนแรง ในปัจจุบัน คุณ ฉี กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดในไทยมาต่อเนื่อง มองว่าเศรษฐกิจไทยนั้น จะเป็นวัฏจักรที่มีขึ้นและลง แต่สำหรับบริษัทฯ เอง ได้มีทิศทางชัดเจนในการโฟกัสการพัฒนาตลาดในไทยในระยะยาวมากกว่าจะมองตลาดเพียงระยะสั้น และจากการเตรียมตัวในไทยมานานมากกว่า 1 ปี สิ่งที่ทำก็คือ การปรับตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของคนไทยให้มากที่สุด พร้อมมีเป้าหมาย ผลักดันแบรนด์ขึ้นเป็น Top 3 สำหรับรถยนต์นั่งในไทย ภายใน 3 ปี

ข่าวแนะนำ