โรลส์-รอยซ์ มั่นใจยอดขาย EV ยังแกร่ง l การตลาดเงินล้าน

หลัง โรลส์-รอยซ์ เปิดตัว Spectre รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์ ในประเทศไทย ไปแล้ว คุณ กฤษฎา สวามิภักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวว่า รถรุ่นดังกล่าว มียอดสั่งซื้อ มากกว่าร้อยละ 60 ของรถ โรลส์-รอยซ์ ที่จำหน่ายในประเทศไทย และได้เริ่มส่งมอบให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ๆ ที่มีการจอง ตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเวลานั้นยังเป็นเพียงคอนเซปต์ คาร์ และยังไม่ทราบราคา

ส่วนปีนี้ คาดว่าการส่งมอบ Spectre น่าจะใกล้เคียง 2 ใน 3 ของรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ที่มีการส่งมอบทั้งหมด เพราะเป็นรถรุ่นที่มีการจับจองเข้ามาจำนวนมากพอสมควร และยอดจองในไทย ก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคอาเซียน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มลูกค้าของ โรลส์-รอยซ์ มีอายุเฉลี่ยลดลงถึง 10 ปี คือลดลงจากเดิม อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ต้น ๆ มาอยู่ที่ 40 ต้น ๆ  โดยเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และเป็นกลุ่มที่ครอบครอง รถ โรลส์-รอยซ์ คันแรก ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายใน ไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ได้ทันที ประกอบกับประเทศไทยเอง มี อินฟราสตรักเจอร์ ด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความพร้อมมากกว่าอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้

คุณ กฤษฎา กล่าวอีกว่า อายุเฉลี่ยของลูกค้า โรลส์-รอยซ์ ที่ลดลง เป็นแนวโน้มเกิดขึ้นทั่วโลก เพราะว่าปัจจุบันมีอาชีพใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วอาจจะไม่มี เช่น ธุรกิจความงาม แพคเกจจิ้ง กลุ่มนักลงทุน รวมถึงทายาทธุรกิจ รุ่นที่ 2 และ รุ่นที่ 3  คนเหล่านี้ มีความกล้าตัดสินใจ กล้าลงทุน และกล้าใช้เงิน 

แต่ขณะเดียวกัน ความต้องการของกลุ่มลูกค้าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะคนรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับความต้องการที่มากขึ้น เพราะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และอะไรที่จะสามารถแสดงถึงความเป็นตัวตนมากได้ที่สุด

นอกจากนี้ ช่วงวิกฤตโควิดยังได้เปลี่ยนทัศนคติของคนในระดับหนึ่งด้วย  ทำให้ โรลส์-รอยซ์ ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นด้วย อายุ ของผู้ซื้อ คือจากเดิม เมื่อลูกค้าถึงวัยระดับหนึ่งแล้ว ก็จะซื้อรถเป็นของขวัญให้กับตัวเองที่ทำงานมาอย่างหนัก แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไป เป็นว่า จะซื้อเมื่อพร้อม 

ทั้งนี้ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ประกาศเจตนารมย์ที่จะยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน และจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573

ซึ่ง คุณ ไอรีน นิคเคียน ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า ความตั้งใจเดิมนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรก็ตาม การจะไปสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าของเราเป็นหลัก ซึ่งคงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป

ส่วนสถานการณ์ความไม่แน่นอน ทั้งด้านเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และ จีน รวมถึงความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มสินค้าหรูบางกลุ่ม ให้มียอดขายชะลอตัวลงไป แต่สำหรับ โรลส์-รอยซ์ นั้น มีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่น จากความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้น แม้จะเห็นการชะลอการตัดสินใจของลูกค้าไปบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่นานนัก และปัจจัยดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นประเด็นกับ โรลส์-รอยซ์ มากเท่ากับกลุ่มสินค้าหรู ที่เป็น ฟาสต์ มูฟวิ่ง ซึ่งจะได้รับผลกระทบมากกว่า 

สำหรับในประเทศไทย โรลส์-รอยซ์ ยังคงเดินหน้ารุกตลาดลักชัวรีต่อเนื่อง ล่าสุดเปิด บูทีค (หรือโชว์รูม) ใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ แกลเลอเรีย (Galleria) ซึ่งอยู่ภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อนำพาแบรนด์เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น

โดยใช้งบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท  ซึ่ง บูทีคแห่งนี้ ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างปราณีต และพิถีพิถัน มีไฮไลท์ คือ Atelier (อาทิลิเญ่) เป็นห้องพิเศษส่วนตัว ที่จะให้ลูกค้าสามารถออกแบบรถคันโปรดแบบ Bespoke(บี สโปก) ตามความต้องการของตนเองได้ และภายในห้องนี้ ยังมีตัวอย่างหลังคาดาวตก หรือ สตาร์ไลต์ เฮดไลน์เนอร์ ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงผลงานะดับ คราฟต์แมนชิป (craftsmanship) ได้อย่างใกล้ชิด อีกด้วย