"Temu" อีคอมเมิร์ซจีนบุก ทำไทยสะเทือน l การตลาดเงินล้าน
"Temu" แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนที่เติบโตเร็ว จนสามารถต่อกรกับ Amazon และ Alibaba ได้ ล่าสุดบุกตลาดในไทย ทำผู้ประกอบการไทยสะเทือน
โมเมนตัม เวิร์คส์ (Momentum Works) บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจในสิงคโปร์ รายงานว่า Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติ ได้เปิดตัวอย่างเงียบ ๆ ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง ไทย เป็นประเทศที่ 3 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจาก ฟิลิปปินส์ และ มาเลเซีย ที่เปิดตัวไปก่อน เมื่อเดือนสิงหาคม และเดือน กันยายน ปีที่แล้ว
ส่วนเว็บไซต์ Temu ในไทย แสดงรายการสินค้าข้ามพรมแดนหลากหลายประเภท พร้อมกับการรีวิว และคะแนนจากทั่วโลกสำหรับสินค้ายอดนิยม แม้ก่อนหน้านี้ จะมีข่าวลือว่า แพลตฟอร์มดังกล่าว จะเปิดตัวสินค้าแบรนด์เนมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ตอนนี้ พบว่า สินค้าส่วนใหญ่บนเว็บไซต์ เป็นสินค้าที่ไม่มีแบรนด์
เช่นเดียวกันกับทื่อื่น ๆ คือ มาพร้อมกับข้อเสนอส่วนลดครั้งใหญ่ คือ ลดสูงสุดถึงร้อยละ 90 และ การจัดส่งทางรถบรรทุกจากกวางโจว มากรุงเทพฯ ใช้เวลาน้อยกว่า 5 วัน
โมเมนตัม เวิร์คส์ รายงานด้วยว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา ตลาดอีคอมเมิร์ซไทย มีมูลค่าอยู่ที่ 19,000 ล้านดอลลารห์สหรัฐฯ (ราว ๆ 600,000 ถึง 700,000 ล้านบาท) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย และ มีอัตราการเติบโตต่อปี ที่ร้อยละ 34.1 ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากเวียดนาม
ทั้งยังถูกครอบครอง โดยแพลตฟอร์มจากต่างชาติ ได้แก่ Shopee มีส่วนแบ่งการตลาด อยู่ที่ ร้อยละ 49 อันดับสองคือ Lazada ส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 30 และ TikTok Shop มีส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 21
สำหรับแพลตฟอร์ม Temu เปิดตัวครั้งแแรกเมื่อปี 2565 ที่ บอสตัน แมสซาชูเซตส์ ในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทจากจีน คือ พีดีดี โฮลดิ้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ พินตัวตัว (Pinduoduo) และใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการนำเสนอสินค้าราคาถูก ส่งตรงจากโรงงานผลิตจากประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ผู้ผลิตเอสเอ็มอีไทย ถูกแรงกดดันอย่างหนักจากสินค้าจีนราคาถูก ที่เข้ามาทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้แข่งขันได้ยากอยู่แล้ว
แต่กรณีการเข้ามาบุกตลาดในไทย ของ Temu ถูกมองว่าน่ากลัว และน่ากังวลมากกว่า เพราะ Temu จะตัดผู้ค้าคนกลางออก และจะเป็นการขายสินค้าโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิตในจีน ส่งถึงลูกค้าคนไทย
ด้าน คุณ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ ชี้ให้เห็นถึงความน่ากังวลดังกล่าว โดยบอกว่า การเข้ามาของ Temu จะไม่เหมือนกับการมาของ มาร์เก็ตเพลส หรือผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ เพราะว่า สินค้า ที่จำหน่ายอยู่บนแพลตฟอร์ม จะเป็นสินค้า ส่งตรงจากโรงงานที่จีนทั้ง 100% โดย ไม่มีสินค้าไทย และไม่มีร้านค้าคนไทยอยู่ในนั้นเลย
นอกจากนี้ ยังไม่มีการจัดตั้งบริษัทในไทย และไม่อยู่ในระบบกฎหมายไทย จึงจะไม่มีการเสียภาษีให้กับประเทศไทย ดังนั้น เมื่อคนไทยซื้อสินค้าผ่าน Temu แล้ว เม็ดเงินการสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวจะถูกดึงออกจากระบบเศรษฐกิจของไทย ไปที่ประเทศจีนโดยตรงทันที
ซึ่งผู้ประกอบการทุกราย ไม่ว่าจะเล็ก กลาง หรือ ใหญ่ ต่างจะได้รับผลกระทบทั้งหมด และ ยิ่งมาพร้อมกับโปรโมชัน การลดราคา ส่งฟรี เมื่อผู้บริโภคเห็นว่าซื้อแล้วคุ้ม จึงถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก และในระยะยาว จะลุกลาม กลายเป็นปัญหาสะสม ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข่าวแนะนำ