"แมคโดนัลด์" ยอดขายทั่วโลกร่วง งัดกลยุทธ์ปรับราคา I การตลาดเงินล้าน
แมคโดนัลด์ เชนฟาสต์ฟูดรายใหญ่ ยอดขายทั่วโลกตก งัดกลยุทธ์ปรับราคามาใช้เพื่อดึงดูดผู้บริโภค
แมคโดนัลด์ เชนฟาสต์ฟูดยักษ์ใหญ่ของโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีรายรับสุทธิ 2,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีรายรับสุทธิจำนวน 2,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยยอดขายสาขาเดิมหดตัว 1% ซึ่งต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ว่าจะเติบโตเล็กน้อย ที่ 0.4% การหดตัวของยอดขายสาขาเดิม ในไตรมาสนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2020
อีกทั้ง เป็นการปรับลดลงในเกือบทุกตลาด ซึ่งจากการเปิดเผยของผู้บริหาร ระบุว่า ปริมาณลูกค้าในตลาดหลักลดลง ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา และเยอรมนี และในอีกหลายตลาดที่บริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบเชิงลบจากประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา ยอดขายสาขาเดิมลดลงไป 0.7% ในการรายงานผลประกอบการล่าสุดนี้ แต่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายสาขาเดิมของแมคโดนัลด์ในตลาดสหรัฐฯ เติบโตขึ้นถึง 10.3% เนื่องจากความนิยมในเซ็ตเมนู กริเมซ เบิร์ธเดย์ มีล (Grimace Birthday Meal) // จากนั้น ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริโภคจำนวนมากกลับลดการใช้จ่ายต่อเนื่อง
ส่วนตลาดใน ฝรั่งเศส และเยอรมนี ยอดขายสาขาเดิมลดลงไป 1.1% โดยเฉพาะที่ฝรั่งเศส มีการแข่งขันด้านราคาสูง และการถูกแบนจากผู้บริโภค ในประเด็นฉนวนกาซา เพิ่มเติมด้วย
ขณะที่ จีน และ ญี่ปุ่น ยอดขายสาขาเดิมลดลงไป 1.3%
ด้าน โจ เออร์ลิงเกอร์ (Joe Erlinger) ประธานแมคโดนัลด์ในสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่า ลูกค้าในสหรัฐฯ จะยังคงรู้สึกถึงแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ และแรงกดดันต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต่อไป หรืออย่างน้อยอีกหลายไตรมาสข้างหน้านี้ ในท่ามกลางภูมิทัศน์ของตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้น
ข่าวแนะนำ