TNN "เทสลา" กำไรต่ำสุดรอบ 5 ปี I การตลาดเงินล้าน

TNN

รายการ TNN

"เทสลา" กำไรต่ำสุดรอบ 5 ปี I การตลาดเงินล้าน

เทสลา (Tesla) รายงานอัตรากำไรต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลดราคาเพื่อฟื้นความต้องการ ขณะที่รายจ่ายเพิ่มจากโครงการ AI

บริษัทกล่าวว่ากำลังดำเนินการเพื่อผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงรุ่นที่ราคาไม่แพงให้มากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 แม้ว่ารุ่นดังกล่าวจะส่งผลให้ลดต้นทุนได้น้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ก็ตาม โดยหุ้นของเทสลาร่วงลงร้อยละ 8 ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ โทมัส มอนเตโร นักวิเคราะห์อาวุโสของ Investing.com กล่าวว่ าขณะนี้นักลงทุนของ เทสลาต้องการผลลัพธ์มากกว่าครั้งไหน ๆ ในประวัติศาสตร์ของบริษัท ซึ่งจะต้องมาอย่างรวดเร็ว ทั้งจากหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robot) หรือ Robotaxi 

โดยไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงที่วุ่นวายของเทสลา เมื่อซีอีโอ อีลอน มัสก์ ระงับการพัฒนารถยนต์ราคาถูกโฉมใหม่และหันไปสนับสนุนรถยนต์รุ่นราคาประหยัดที่ทะเยอทะยานน้อยลง และเน้นสร้างรถแท็กซี่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง ซึ่งช่วยทำให้หุ้นพุ่งสูงขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทยังเลิกจ้างพนักงานมากกว่าร้อยละ 10 เพื่อลดต้นทุน แต่กำไรก็ลดลง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากโครงการปัญญาประดิษฐ์

เทสลา บันทึกอัตรากำไรขั้นต้นของยานยนต์โดยไม่รวมสินเชื่อตามกฎระเบียบที่ร้อยละ 14.6 ในไตรมาสที่ 2 เทียบกับประมาณการที่ร้อยละ 16.29 ตามการสำรวจของนักวิเคราะห์ 20 คน โดยวิซิเบิล อัลฟา

ด้านแดน โคทสเวิร์ธ นักวิเคราะห์การลงทุนของเอเจ เบลล์ กล่าวว่าเทสลาพลาดเป้าหมายรายได้เป็นเวลา 4 ไตรมาสติดต่อกัน โดยมีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับโรโบแท็กซี่ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ และการขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งนำเสนอเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุน แต่ก็ยังไม่สามารถข้ามผ่านความจริงไปได้ว่าสิ่งเหล่านี้คือความสำเร็จที่อาจเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่ของวันนี้

การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทลดลงเป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน เนื่องจากเทสลา ต้องต่อสู้กับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและความต้องการที่ชะลอตัวอันเนื่องมาจากการขาดแคลนรถยนต์รุ่นใหม่ที่ราคาไม่แพง ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนของเทสลาซึ่งส่งออกไปยังยุโรปและที่อื่น ๆ ก็ลดลงในไตรมาสที่ 2 เทียบกับปีก่อนหน้าเช่นกัน ขณะที่ บีวายดี และผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่น ๆ มียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม เทสลาคาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นตามลำดับในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

จากข้อมูลของ LSEG บริษัทรายงานรายรับ 25,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาสนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของปีที่แล้วและเป้าหมายของนักวิเคราะห์เล็กน้อย 

ส่วนรายรับสุทธิอยู่ที่ 1,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาสที่ 2 เทียบกับ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว โดยมีการปรับกำไรที่ 52 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าของวอลล์สตรีทที่ 62 เซนต์

ข่าวแนะนำ