พนมเปญค่าครองชีพแพงพุ่งแซงหน้ากรุงเทพฯ

ผลการสำรวจดัชนีค่าครองชีพล่าสุดของ Mercer ระบุว่า พนมเปญกลายเป็นเมืองค่าครอรพแพงที่สุดในโลกอันดับที่ 123  โดยปีนี้ขยับขึ้นมา 9 อันดับเนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ ค่าน้ำมัน และของชำพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจากการจัดอันดับปีนี้พนมเปญยังกลายเป็นเมืองที่แพงที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรองเพียงสิงคโปร์  นำหน้ากรุงเทพฯที่อยู่อันดับ 129  มะนิลา อันดับ 131 จาการ์ตา อันดับ 157 และกัวลาลัมเปอร์ อันดับ 200 ไปไกลมาก และยังแพงกว่าเมืองใหญ่ๆ รวมถึงเมืองหลวงทั่วโลกของบางประเทศ เช่น เซา เปาโล, เฉิงตู, ออตตาวา, อิสตันบูล, วอร์ซอ, บูดาเปสต์, เวลลิงตัน, ริโอ เดอจาเนโร, โยโกฮาม่า, เบลเกรด, นาโกยา, โซเฟีย, ลิมา, ไคโร และโคลอมโบ เป็นต้น

ส่วนฮ่องกงและสิงคโปร์ครองตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับคนงานหรือพนักงานต่างชาติ เช่นเดียวกับซูริก โดยทั้งสามเมืองนี้ยังคงรักษาตำแหน่งเดิมในการจัดอันดับของ Mercer เหมือนกับปีที่แล้ว ขณะที่ใน Top 10 ครึ่งหนึ่งอยู่ในยุโรปตะวันตก และอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ 4 เมือง ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุด ได้แก่ อิสลามาบัดในปากีสถาน และลากอสและอาบูจาในไนจีเรีย  

แล้วเหตุใดเมืองพนมเปญจึงค่าครองชีพสูงขึ้น คำตอบจาก Mercer ระบุในรายงานคือการที่อัตราเงินเฟ้อสูงและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลโดยตรงต่อค่าจ้างและการออมของพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ในต่างประเทศ หรือผู้ที่ปฏิบัติงานมอบหมายงานระหว่างประเทศ หรือชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงานในพนมเปญ

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความผันผวนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในด้านต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย ค่าสาธารณูปโภค ภาษีท้องถิ่น และการศึกษา อีกทั้งกัมพูชามีการทำธุรกรรม

ทางการเงินมากกว่า 80% เป็นสกุลเงินดอลลาร์ ไม่ใช่สกุลเงินเรียลทำให้ความเสี่ยงสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการที่ค่าครองชีพสูงทำให้พนมเปญ ดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับแนวหน้าสำหรับงานมอบหมายในระดับนานาชาติได้ยากขึ้น