มาเลเซียคู่แข่งรายใหม่ “ทุเรียน” ตลาดจีน

การส่งออกทุเรียนไทยปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีคู่แข่งมากขึ้น หลายประเทศแล้วก็ตาม โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ในเดือนพ.ค.ไทยส่งออก ทุเรียนสด มีมูลค่า 1,132 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 221% ซึ่งการส่งออกทุเรียนไปจีนซึ่งขยายตัวกว่า 2 เท่าตัว แสดงให้เห็นว่า ทุเรียนของไทยยังส่งออกได้ดี

ถ้าดูจากข้อมูล ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-พ.ค. 2567) ไทยส่งออกทุเรียนสด ปริมาณ 497,602 ตัน มูลค่า 83,000 ล้านบาท โดยด้านปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.6 ส่วนด้านมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14   ซึ่งทุเรียนไทยส่งออกไปตลาดจีนมากสุด ร้อยละ 97.57 ของการส่งออกในภาพรวม รองลงมาคือตลาดฮ่องกงร้อยละ 1.4

ส่วนข้อมูลจาก Global Trade Atlas ระบุว่า ในช่วง ม.ค.-เม.ย.ปีนี้ จีนยังนำเข้าทุเรียนสดจากไทยมากสุดเป็นอันดับ 1  มีส่วนแบ่งการตลาด ร้อยละ 66  / อันดับ 2 เวียดนาม ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 34  /อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ ส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 0.53 

แต่ไทยคงวางใจไม่ได้ เพราะล่าสุดทุเรียนจีนออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเป็นทุเรียนทุเรียนที่ปลูกบริเวณไห่หนาน ซานย่า หยู่ไฉ 

ทุเรียนไห่หนานเริ่มเปิดในตลาดจีนเมื่อเดือนพ.ค. ขายอยู่ที่ประมาณ 60 หยวน/จิน  หรือเทียบเป็นเงินไทย 600 บาทต่อกก.  ขายดีมาก แม้ว่าจะสูงกว่าทุเรียนไทยกว่าเท่าตัว โดยทุเรียนไทยขาย  300 บาทต่อกก.แต่คนจีนอยากซื้อซิมว่ารสชาติจะอร่อยแค่ไหน

นอกจากทุเรียนจากจีน “มาเลเซีย” สามารถส่งออกทุเรียนสดไปจีนได้แล้ว โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 มาเลเซียและจีน ได้ลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกทุเรียนสดจากประเทศมาเลเซียไปยังประเทศจีน ส่งผลให้มาเลเซีย เป็นประเทศที่ 4 ที่สามารถส่งออกทุเรียนผลสดไปยังประเทศจีนได้ จากเดิมที่มีเพียง 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันด้านการค้าทุเรียนผลสดในตลาดจีนรุนแรงมากขึ้น