กุมารแพทย์ ย้ำกินไก่ ไม่ใช่สาเหตุทำให้โตไว
กุมารแพทย์ ย้ำกินไก่ ไม่ใช่สาเหตุทำให้โตไว
กุมารแพทย์ ไขข้อสงสัยเรื่องภาวะเด็กโตเร็ว ไม่เกี่ยวข้องกับการรับประทานไก่มากๆ และมีข้อมูลงานวิจัยระบุว่า “ความอ้วน” จะทำให้เป็นสาวเร็ว โตไวยิ่งขึ้น ซึ่งมาจากลักษณะการบริโภคอาหารในปัจจุบัน พร้อมแนะนำผู้ปกครองสังเกตภาวะเป็นสาวเร็วก่อนวัย รวมถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องผศ.พญ.กัลย์สุดา อริยะวัตรกุล สาขากุมารเวชศาสตร์ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทานมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระบุว่า เรื่องภาวะเด็กโตเร็วเป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองกังวล และมักมีคำถามเกี่ยวกับ “ไก่” ทำให้เด็กโตเร็ว ซึ่งขอยืนยันว่าการกินไก่เยอะๆ กับเป็นสาวเร็ว ไม่เกี่ยวกัน มันเป็นความเชื่อในอดีต ปัจจุบันไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ระบุว่าไก่ทำให้เด็กโตเร็วขณะที่มีหลักฐานมากมายที่การเลี้ยงไก่ไม่ต้องใช้ฮอร์โมน อาจารย์สัตวแพทย์ก็ยืนยันว่าไม่มีการใช้ แต่มีพัฒนาการด้านเทคโนโลยการเลี้ยงไก่ อาทิ สายพันธุ์ที่ดีขึ้น กระบวนการเลี้ยงที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้ฮอร์โมนซึ่งทั้งผิดกฎหมาย เป็นการเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุ และเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ฉีดไก่ทีละตัว และอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้น ไม่มีใครเสี่ยงที่จะใช้ขณะที่งานวิจัยล่าสุดของ สสส. ที่สำรวจกลุ่มตัวอย่างกลุ่มใหญ่ที่สุดคือ 8,161 คน ใน 95 โรงเรียนทั่วประเทศ ก็พบว่า ไก่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเข้าสู่วัยสาว ทุกวันนี้คุณพ่อคุณแม่ยังกังวลอยู่น่าจะเป็นเพราะข้อมูลที่แชร์ต่อๆ กันเป็นข้อมูลเก่ามากกว่า ตรงนี้มองว่าเป็นธรรมดาของพ่อแม่ ที่มักจะกลัวอะไรที่อาจเกิดอันตรายกับลูกเสมอกรณีของไก่นี้ อาจารย์ที่อยู่ทางใต้ยืนยันว่าเด็กมุสลิมที่ไม่กินหมู แต่กินไก่เยอะ ก็ไม่มีข้อมูลว่าเด็กมุสลิมเป็นสาวเร็วกว่าเด็กอื่นๆ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องเลี่ยงรับประทานไก่ ซึ่งเป็นโปรตีนสุขภาพที่เด็กควรได้รับ แต่ให้เลี่ยงไก่ทอด ของทอด ของมัน ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย และพยายามรักษาน้ำหนักลูกให้เป็นปกติ ก็จะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่งแล้วส่วนภาวะเป็นสาวเร็ว ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร แต่มีข้อมูลจากการวิจัยพบว่าเด็กอ้วนจะเป็นสาวเร็วกว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากวิธีการบริโภค ซึ่งในสมัยนี้มีความกินดีอยู่ดี อาหารหารกินดีมากขึ้นสมบูรณ์ขึ้น พอเด็กอ้วนก็มีแนวโน้มเป็นสาวเร็ว ขณะที่เด็กผอมก็โตเร็วได้ เพียงแต่โอกาสน้อยกว่า การโตเร็วเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลกอายุเฉลี่ยที่เด็กเริ่มเป็นสาวจากรุ่นพ่อแม่ที่มีประจำเดือนตอนอายุ 15 - 16 ปีรุ่นเราก็ 13 - 14 ปี และงานวิจัยล่าสุดของ สสส. พบอายุเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 11 - 12 ปี ซึ่งก็น่าจะมาจากอาหารการกินที่กินดีขึ้น ทำให้ร่างกายเด็กมีความพร้อมเข้าสู่วัยสาว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ที่สำคัญ ไม่ได้หมายความว่าพอมีประจำเดือนเร็วแล้วจะเตี้ยกว่าคนในอดีต ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือเด็กสมัยนี้สูงกว่าคนในอดีตด้วยซ้ำ
อีกความเข้าใจผิดที่ทำให้พ่อแม่กังวล คือเชื่อว่าพอมีประจำเดือนแล้วจะหยุดสูงทันที แต่ความเป็นจริงคือ เด็กจะสูงเต็มที่แล้วร่างกายจึงจะพร้อมมีประจำเดือน เวลาเริ่มเป็นสาวจะมีเต้านมก่อน หลังจากนั้นเด็กจะสูงอย่างรวดเร็วประมาณ 8 - 10 ซม.ต่อปี พอสูงเต็มที่แล้ว ความสูงจะชะลอลง ไม่ใช่หยุดสูงเลยอาจจะเหลือ 2 - 3 ซม.ต่อปี พ่อแม่ก็เลยคิดว่าทำไงก็ได้ที่จะไม่ให้ประจำเดือนมาเพื่อให้ลูกสูงต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอันนี้ไม่จริง และต้องอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจก่อนว่าการฉีดยารักษาต้องดูเป็นกรณีไปสำหรับวิธีสังเกตภาวะเป็นสาวเร็ว สัญญาณแรกคือเริ่มต้นเจอก้อนที่เต้านม พ่อแม่ต้องสังเกต เช่นอาบน้ำให้ลูกแล้วคลำเจอ ถ้าพบว่ามีเต้านมก่อน 8 ขวบ จึงจะเรียกว่าเป็นสาวก่อนวัย วิธีต่อมาก็คือส่งตรวจ X-ray กระดูกเพื่อดูว่าพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน ถ้าชัดเจนว่ากระดูกพัฒนาไปมากแล้ว ก็ทดสอบฮอร์โมนเพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ค่อยเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยปัจจุบันมีวิธีรักษาคือยาฉีดชะลอฮอร์โมนเพศ เหมือนในร่างกายมีการเปิดสวิชท์หลั่งฮอร์โมนเพศออกมา ยาตัวนี้จะไปชะลอไว้ก่อนซึ่งจะใช้วิธีฉีดไปจนถึงอายุที่เหมาะสมจึงหยุด
สิ่งที่พบอีกอย่างคือ เวลาเด็กเป็นสาวจะดูสูงกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน แต่เขาจะหยุดสูงเร็วกว่าเพื่อน เลยทำให้พ่อแม่ชะล่าใจและไม่สังเกตลูกมากนักพอมาถึงจุดที่มีประจำเดือนแล้วก็จะไม่สามารถรักษาได้ เด็กที่โตก่อนวัยมักจะขาดความมั่นใจ ไม่พร้อมดูแลตัวเอง อีกส่วนหนึ่งคือรูปร่างเป็นสาวอาจทำให้เกิดการคุกคามทางเพศ ซึ่งเด็กจะป้องกันตัวเองไม่ได้ก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ดังนั้น จึงอยากขอย้ำให้คุณพ่อคุณแม่สังเกต ควบคุมดูแลน้ำหนักลูก และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง หรือหากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษากุมารแพทย์ และพบแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์ต่อมไร้ท่อเพื่อประเมินอาการและเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป