บึงสีไฟแห้งขอด! ปิดป้ายห้ามบุกรุก-เผาจับดำเนินคดี

วันที่ 3 มีนาคม 2563 บึงสีไฟ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ทั้งหมด 5,300 ไร่ สามารถจุน้ำได้ประมาณ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปัจจุบันบึงสีไฟ เกิดความแห้งแล้งมีน้ำเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของความจุเท่านั้น ซึ่งจากสภาพความแห้งแล้งดังกล่าวทำให้มีชาวบ้านที่อาศัยโดยรอบบึงสีไฟ แอบลักลอบบุกรุกเข้าไปจุดไฟเผา ในลักษณะไฟลามทุ่งเพื่อเผาป่าวัชพืชแห้ง ซึ่งเป็นป่าต้นอ้อ ป่าสนุ่น เพื่อสะดวกในการเข้าไปล่าสัตว์จับสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู เต่า หนู หอย ปู ปลา ออกมาขาย อีกทั้งยังมีการเผาเพื่อจับจองพื้นที่โดยจะพบว่ามีการปักธงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการจับจองพื้นที่ในการแสดงอาณาเขตตนเองรวมถึงปลูกเพิงพักชั่วคราว เพื่อลักลอบขุดหน้าดินภายในบึงสีไฟไปขาย

โดยขณะนี้ยังมีการแอบลักลอบเข้าไปจุดไฟเผาอย่างต่อเนื่องถึงแม้ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยามนำรถบรรทุกน้ำเข้าไปสกัดเพลิงหลายครั้งแล้วก็ตาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดพิจิตรนำป้าย "ห้ามบุกรุก" ไปติดบริเวณทางเข้าออกในทุกเส้นทางโดยรอบของบึงสีไฟ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดพิจิตร เพื่อเตรียมบังคับใช้กฎหมายเอาผิดกับประชาชนที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บึงสีไฟ และจุดไฟเผาป่าและวัชพืชที่แห้งเหี่ยวเฉาภายในบึงสีไฟ ทำให้เปลวเพลิงลุกลามขยายวงกว้าง สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างมากกว่า 500 ไร่

นอกจากนี้การจุดไฟเผาป่าดังกล่าว ยังก่อให้เกิดวิกฤตหมอกควันและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 ปลิวไปตามแรงลม ไปตกในพื้นที่เขตชุมชนรวมถึงพื้นที่โรงพยาบาลพิจิตร ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดไฟไหม้ ทำให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบทางเดิน

ขณะที่นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ระบุว่า ทางจังหวัดได้ใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้กับผู้ที่ฝ่าฝืนบุกรุกพื้นที่บึงสีไฟ ซึ่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองเก่า,โรงช้าง ,ท่าหลวง และ อบต.คลองคะเชนทร์ รวมทั้งเทศบาลเมืองพิจิตร จัดชุดเวรยามลาดตระเวนเคลื่อนที่เฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกเผาพื้นที่บึงสีไฟตลอด 24 ชั่วโมง และถ้าหากพบผู้กระทำความผิดจะมีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น

เกาะติดข่าวที่นี่ 
website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand