บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน ดีต่อสุขภาพกว่า บุหรี่มวน จริงหรือ ?

เปิดข้อมูล บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน ดีต่อสุขภาพ - ปลอดภัยกว่า เสี่ยงโรคน้อยกว่า บุหรี่มวน จริงหรือ ?

บุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Products: HTPs), กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่มีผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนไทยจำนวนมาก แม้หลายคนจะเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ความจริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้าเต็มไปด้วยสารพิษที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้อย่างร้ายแรง งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และยังมีผลเสียตามกฎหมายที่ต้องระวัง

บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน ดีต่อสุขภาพกว่า บุหรี่มวน จริงหรือ ?

สรุปข่าว

บุหรี่ไฟฟ้า, โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (HTPs), เป็นภัยเงียบที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในไทย การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคอ้วน ผู้ที่สูบต่อเนื่องเกิน 3 ปีเสี่ยงสูงขึ้นถึง 2 เท่า นอกจากนี้ยังมีโทษตามกฎหมายทั้งการขาย นำเข้า และครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรค NCDs.

บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (HTPs) ปลอดภัยต่อสุขภาพจริงหรือ ?

บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้สูบบุหรี่เนื่องจากความเข้าใจผิดว่ามันปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา เนื่องจากไม่มีการเผาไหม้ แต่จริงๆ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าแบบนี้ยังคงมีสารพิษอันตรายที่เสี่ยงต่อสุขภาพ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และ

งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า:
- บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนเพิ่มความเสี่ยงโรค NCDs ถึง 2 เท่า
- ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง, ภาวะอ้วนลงพุง, น้ำตาลในเลือดสูง, และไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบนี้ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าหรือ 33%

โรค NCDs คืออะไร ต้นเหตุทำคนไทยตายอันดับ 1

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า โรค NCDs (Non-Communicable Diseases) หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยป่วยเป็นโรค NCDs ถึง 14 ล้านคน และ เสียชีวิตจากโรค NCDs มีจำนวนกว่า 300,000 คนต่อปี ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเหล่านี้เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

บุหรี่ไฟฟ้า อันตรายต่อสุขภาพ - ขาย นำเข้า ครอบครองมีโทษติดคุก

บุหรี่ไฟฟ้าไม่เพียงแต่เป็นภัยต่อสุขภาพ แต่ยังมีบทลงโทษตามกฎหมายสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ขาย ผู้ครอบครอง และผู้สูบ:
- ผู้ขายและผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า: มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562
- ผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า: มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับ 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244
- ผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า: มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร
- การสูบในที่สาธารณะ: หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มี "นิโคติน" ในเขตปลอดบุหรี่จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตาม พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560

บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน เป็นข้อมูลเท็จ

บุหรี่ไฟฟ้าแม้จะได้รับการโปรโมทว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า แต่ในความเป็นจริงมันเต็มไปด้วยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนหรือแบบอื่น ๆ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และยังมีบทลงโทษตามกฎหมายสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขาย การครอบครอง และการสูบในที่สาธารณะ ดังนั้นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากบุหรี่ไฟฟ้าในสังคมไทย

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการให้ความรู้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับภัยอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน ซึ่งกำลังแพร่หลายและถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า บุหรี่ธรรมดา การให้ความรู้ที่ถูกต้องและการส่งเสริมการไม่สูบบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญในการลดอัตราผู้ป่วยจากโรค NCDs ในประเทศ

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : AFP

avatar

ชญาภา ภักดีศรี