“โยเกิร์ตธรรมดา” กับ “กรีกโยเกิร์ต” ของดีที่ควรคกิน แตกต่างกันอย่างไร?

ทั้ง 2 ชนิดนี้ เกิดจากการหมักด้วยส่วนผสมหลักคือ นมสด กับ Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus (แบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย) โดยใช้แบคทีเรียเปลี่ยนแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของนมให้เป็นกรดแลคติก แต่สิ่งที่ทำให้โยเกิร์ตทั้ง 2 นี้ต่างกันคือ 

“กรีกโยเกิร์ต”

เกิดจากโยเกิร์ตธรรมดาที่ถูกขจัดเวย์และของเหลวอื่นๆ ออกไป จึงทำให้เนื้อของกรีกโยเกิร์ตมีความเข้มข้นมากกว่าโยเกิร์ตธรรมดา


มีเนื้อสัมผัสที่แน่นและเปรี้ยวกว่ามาก เนื่องจากของเหลวส่วนใหญ่ถูกขจัดออกไป แลคโตสบางส่วนจึงถูกขจัดออกไปด้วย ทำให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล แคลเซียมและโซเดียมน้อยกว่าโยเกิร์ตธรรมดา แต่มีโปรตีนสูง มีความเข้มข้นมากและราคาสูงกว่าด้วย

“โยเกิร์ตธรรมดา” กับ “กรีกโยเกิร์ต” ของดีที่ควรคกิน แตกต่างกันอย่างไร?

สรุปข่าว

ทั้ง 2 ชนิดนี้ เกิดจากการหมักด้วยส่วนผสมหลักคือ นมสด กับ Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus (แบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย) โดยใช้แบคทีเรียเปลี่ยนแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของนมให้เป็นกรดแลคติก

ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก

“โยเกิร์ตธรรมดา”

ให้รสเปรี้ยวนิดๆ ไม่หวาน มีความเข้มข้นน้อย สามารถใช้ช้อนตักกินหรือยกดื่มก็ได้เช่นกัน โดยทั่วไปแล้วจะมีแคลอรีน้อยกว่าและมีแคลเซียมมากกว่ากรีกโยเกิร์ต

ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก

ที่มาข้อมูล : TNN Health

ที่มารูปภาพ : Envato