

สรุปข่าว
จากข้อมูลสถิติปี พ.ศ. 2563 ทั่วโลกพบมะเร็งปากมดลูกบ่อยเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งใน สำหรับประเทศไทย พบมะเร็งปากมดลูกบ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านมโดยพบผู้ป่วยใหม่ประมาณปีละ 9,100 ราย และเสียชีวิตปีละ 4700 ราย หรือทุกๆ 1 วันจะมีผู้หญิงไทยเสียชีวิต 13 คน
โดยสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก 99.7 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV
การตรวจแบบ HPV DNA TEST เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ด้วยตัวเองที่คล้ายกับ ATK ที่ทุกคนคุ้นเคย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกโดยตรง โดยมีความไวในการตรวจพบถึง 90-95% ขณะที่การตรวจแบบเดิม PAP SMEAR ซึ่งต้องขึ้นขาหยั่งให้บุคลากรทางการแพทย์ตรวจ ความไวในการตรวจพบอยู่ที่ 50-55%
กระบวนการตรวจ HPV DNA TEST มีลักษณะดังต่อไปนี้
•เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ง่ายคล้ายกับ ATK ที่ทุกคนคุ้นเคยกันแล้ว มีไม้สำหรับการเก็บตัวอย่างในช่องคลอดคล้ายกับไม้แหย่จมูกของ ATK เพียงแต่ไม่สามารถตรวจเชื้อได้ทันที แต่ต้องเก็บใส่กล่องแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจในแล็บ
•โดยช่วงเวลาที่ทำการตรวจ ผู้ตรวจต้องมีสุขภาพดีไม่มีอาการปวดท้องน้อย หรือต้องหลังมีประจำเดือนอย่างน้อย 7 วัน
•หลังการตรวจแล้วหากไม่พบเชื้อ อีก 5 ปีค่อยตรวจใหม่อีกครั้ง
•แต่หากตรวจพบเชื้อไวรัส HPV สายพันธ์ก่อมะเร็งที่มีความเสี่ยง (สายพันธ์ 16, 18) จะต้องมาพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจด้วยการส่องกล้องปากมดลูกต่อไป
•หรือหากพบเชื้อสายพันธ์ก่อมะเร็งที่ไม่มีความเสี่ยง จะตรวจเซลล์วิทยาต่อ หากพบความผิดปกติจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
•แต่หากไม่พบความผิดปกติจะติดตามอาการอีกครั้งในปีถัดไป ซึ่งจะทำให้รักษาได้อย่างรวดเร็ว
•แนะนำผู้หญิง ที่อายุ 25-30 ปี ให้เริ่มตรวจมะเร็งปากมดลูก ซึ่งถือว่าช่วงอายุระหว่างนี้ อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้หญิงที่มีครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ไม่ต้องรอจนถึงอายุ 25 ปี
ที่มา : กรมการแพทย์ /โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
ภาพปก: Envato
ที่มาข้อมูล : -