
ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ อดีตพระสงฆ์ชื่อดัง พระมหาไพรวัลย์ แสดงความคิดส่วนตัว ไม่เห็นข้อดีของการ งดขายเหล้า วันพระ การใช้กฏหมายบังคับ ยิ่งทำให้คนออกห่างศาสนา แต่กลับกัน ศาสนาที่เข้มแข็ง ย่อมโน้มน้าวจิตใจคนได้

สรุปข่าว
จากกรณีที่ นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีคำสั่งทบทวนระเบียบเวลาขายเหล้าและเบียร์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องการห้ามขายช่วงเวลา 14.00-17.00 น. รวมถึงช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ว่าเรื่องนี้มีการกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง
ล่าสุดทางด้านของ แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ อดีตพระสงฆ์ชื่อดัง พระมหาไพรวัลย์ ก็ได้ออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า..
"ดิฉันก็ไม่เห็นข้อดีอะไรเลยนะคะ เรื่องงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา เพราะคนที่ไม่ดื่ม เขาก็ย่อมจะไม่ดื่มเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนคนที่จะดื่ม เขาก็หาเรื่องที่จะดื่มจนได้นั่นเอง
กลับกันดิฉันมองเห็นแต่ข้อเสีย เพราะคนซึ่งไม่อินกับศาสนา ก็พลอยจะมาด่านักบวชและศาสนาไปอีก ทั้งๆ ที่การออกกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนมีมูลเหตุมาแต่รัฐบาลทั้งนั้น ดิฉันก็ไม่เห็นว่าพระท่านจะไปนั่งยกมือออกเสียงในสภาอะไรด้วยนะคะ
เดี๋ยวนี้สิ่งเสพติดของมึนเมาในรูปแบบใหม่ๆ เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองเต็มไปหมด ก็อยากให้รัฐบาลไปเข้มงวดกวดขันในเรื่องที่ควรเข้มงวดกวดขันดีกว่านะคะ เช่น การเอาผิดกับผู้ที่ขายเครื่องดื่มมึนเมาให้กับเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง การลงโทษอย่างหนักกับผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาแล้วทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนทั้งทางด้านชีวิตและทรัพย์สิน
เดี๋ยวนี้ทั้งหมอและสาธารณสุขก็ออกมาเตือนฉ่ำเลยนะคะ มีทั้งพอตไฟฟ้า พอตเค มีทั้งน้ำกระท่อมและกัญชา มีทั้งการพนันออนไลน์เยอะแยะมากมายหลายประเภท ที่สำคัญเยาวชนเข้าถึงได้ง่ายมาก สุดท้ายก็ถูกมอมเมา ผู้คนในสังคมก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ รัฐบาลต้องเท่าทันสิ่งเหล่านี้ค่ะ
ศาสนาที่เข้มแข็ง ย่อมโน้มน้าวจิตใจของศาสนิกให้อยู่ในหลักศาสนาได้ โดยไม่ต้องอาศัยกฎหมายบังคับค่ะ ในทางกลับกัน รัฐที่ชอบเอาบัญญัติทางศาสนามาเป็นกฎหมายข้อห้าม มีแต่จะทำให้คนอคติ และออกห่างจากศาสนามากขึ้นๆ ในทุกวัน จบ"
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
ภาพจาก : ไพรวัลย์ วรรณบุตร
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : เฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร

Bumroong Onsumang
(Pattcyber)