“ราจัต ไก” เจ้าของธุรกิจวัย 31 ปี ในเมืองกานปูร์ อยู่ระหว่างพูดคุยกับดีไซเนอร์เพื่อออกแบบห้องน้ำที่ทันสมัย โดยเขามีแผนจ่ายเงินราว 28,000 ดอลลาร์ สำหรับซื้อสุขภัณฑ์แบรนด์ดัง ทั้ง “โคห์เลอร์” (Kohler) จากสหรัฐฯ และ “โตโต้” (Toto) จากญี่ปุ่น ตั้งแต่อ่างจากุชชี ฝักบัวระบบไอน้ำ โถชักโครกเอนกประสงค์พร้อมที่นั่งที่ปรับอุณหภูมิและสามารถขจัดกลิ่นแบบอัตโนมัติ
เขาระบุว่า ห้องส้วมของญี่ปุ่นล้ำสมัยและถูกสุขอนามัยมาก เหมือนกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง จึงอยากมีประสบการณ์แบบเดียวกัน หลังเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นก่อนหน้านี้
ปัจจุบัน อินเดียเป็นตลาดสำคัญสำหรับแบรนด์สุขภัณฑ์อย่างโคห์เลอร์ โตโต้ และฮานส์โกรเฮอ (Hansgrohe) จากเยอรมนี ซึ่งแบรนด์เหล่านี้มองหาโอกาสจะเปิดสาขาเพิ่มเติม รวมถึงทำข้อตกลงกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มการผลิตในตลาดอินเดียที่มีประชากรมากสุดในโลก
ธนาคาร UBS ประเมินว่า ภายในปี 2571 อินเดียจะมีเศรษฐีระดับล้านดอลลาร์ราว 1 ล้านคน มากกว่าสิงคโปร์ ฮ่องกง หรือบราซิล
ขณะเดียวกัน อินเดียก็มีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนอย่างมาก ธนาคารโลกประเมินในปี 2565 ว่า ราวร้อยละ 11 ของประชากรอินเดียยังคงขับถ่ายกลางแจ้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ชาวอินเดียหลายล้านคนจะลดการใช้จ่ายเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ แต่คนรวยหน้าใหม่ก็ไม่กังวลกับการใช้เงิน สะท้อนจากยอดขายรถยนต์ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ในอินเดียพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว เช่นเดียวกับข้อตกลงซื้ออพาร์ตเมนต์ราคาหลายล้านดอลลาร์ในเมืองใหญ่และเมืองเล็ก
ข้อมูลของ “แอนาร็อก พร็อพเพอร์ตี คอนซัลแทนส์” (Anarock Property Consultants) ระบุว่า บ้านหรูคิดเป็นร้อยละ 26 ของยอดขายที่อยู่อาศัยทั้งหมดในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว มากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2563
สรุปข่าว
