ทีมกู้ภัยของรัสเซียได้จัดตั้งโรงพยาบาลเคลื่อนที่ในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมา ซึ่งมีประชากรกว่า 1.2 ล้านคน หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่ม
ด้านพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอาจสูงเกิน 3,000 ราย เพิ่มขึ้นจากยอดเดิมเมื่อวานนี้ที่ 2,719 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ 4,521 คน และผู้สูญหายอีก 441 คน
แผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปีของเมียนมา ส่งผลให้วัด โบราณสถาน และอาคารสมัยใหม่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สรุปข่าว
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กำลังจัดส่งความช่วยเหลือให้ผู้ประสบภัย หลังจากแผ่นดินไหวส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย โดยขณะนี้ UNHCR กำลังส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่ผู้รอดชีวิตกว่า 25,000 คนในเมืองมัณฑะเลย์และกรุงเนย์ปิดอว์ ทั้งนี้ ที่พักพิง น้ำสะอาด และยารักษาโรคยังคงขาดแคลนอย่างหนัก ภายหลังแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและคร่าชีวิตประชาชนจำนวนมาก
สำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) รายงานว่า องค์กรต่าง ๆ ของสหประชาชาติกำลังเตือนถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่ม ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดของอหิวาตกโรค “จูเลีย รีส” รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ระบุว่า ความต้องการเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือน้ำสะอาด เนื่องจากอากาศในพื้นที่ร้อนจัด และชุมชนจำนวนมากไม่มีระบบประปาหรือน้ำดื่มเพียงพอ
สถานการณ์ดังกล่าวถูกจัดให้เป็นวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมระดับสูง ขณะนี้กำลังมีการระดมสิ่งของช่วยเหลือ เช่น ผ้าปูที่นอน วัสดุสำหรับนอน และมุ้งกันยุงส่งไปยังพื้นที่อย่างเร่งด่วน ทั้ง OCHA, UNHCR และ UNICEF ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับงบประมาณช่วยเหลือ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกให้การสนับสนุนทางการเงิน เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวครั้งนี้
สุนิดา สวัสดิพรพัลลภ