พยากรณ์อากาศวันนี้ 16 มีนาคม 2568 ไทยตอนบนเจอพายุฤดุร้อน ก่อนสัมผัสลมหนาวหลงฤดู

พยากรณ์อากาศประเทศไทยวันที่ 16  มีนาคม 2568 แนวโน้มอุณหภูมิ และ สภาพอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า

ภาพรวมสภาพอากาศ

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน กำลังแผ่ลงมาปกคลุมทางตอนบนของประเทศเวียดนาม และคาดว่าจะปกคลุมประเทศลาวในคืนวันที่ 15 มีนาคม 2568 ก่อนจะแผ่ลงมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยในวันพรุ่งนี้ (16 มีนาคม 2568)

ประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีอากาศร้อน โดยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ลักษณะของพายุจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่าในบางแห่ง หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 1 - 2 องศาเซลเซียส ในภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

พยากรณ์อากาศวันนี้ 16  มีนาคม 2568 ไทยตอนบนเจอพายุฤดุร้อน ก่อนสัมผัสลมหนาวหลงฤดู

สรุปข่าว

บริเวณความกดอากาศสูงจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลง 1-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนบางแห่ง และทะเลมีคลื่นสูงในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง

รายละเอียดพยากรณ์อากาศรายภาค (06.00 น. วันนี้ - 06.00 น. วันพรุ่งนี้)


ภาคเหนือ
    •    อากาศร้อนโดยทั่วไป มีหมอกควันในช่วงกลางวัน และมีพายุฝนฟ้าคะนองประมาณ 10% ของพื้นที่
    •    พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส
    •    ลมพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    •    มีพายุฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางแห่ง
    •    พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เลย ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    •    อุณหภูมิลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
    •    ลมพัดจากทิศตะวันออก ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง
    •    อากาศร้อนโดยทั่วไป มีพายุฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรงบางแห่ง
    •    พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
    •    อุณหภูมิลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
    •    ลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก
    •    มีพายุฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่ง
    •    พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    •    อุณหภูมิลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
    •    ลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    •    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และในบริเวณฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    •    มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ ส่วนใหญ่เกิดใน เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
    •    ลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    •    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และในบริเวณฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
    •    มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ ส่วนใหญ่เกิดใน ระนอง พังงา และกระบี่
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
    •    ลมพัดจากทิศตะวันออก ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    •    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และในบริเวณฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    •    อากาศร้อนโดยทั่วไป มีพายุฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ พร้อมลมกระโชกแรง
    •    อุณหภูมิลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
    •    อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

สรุปแนวโน้มสภาพอากาศ

พายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงหลังพายุ โดยภาคอีสานลดลงมากที่สุด (3-5°C) ระวังฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร คุณภาพอากาศในภาคเหนือและอีสานยังมีฝุ่นสะสมปานกลางถึงมาก

คำแนะนำ

หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งขณะเกิดพายุ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากลมแรงและลูกเห็บ ผู้ที่อาศัยในภาคเหนือและอีสานควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง หลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และโครงสร้างไม่แข็งแรง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิตและสัตว์เลี้ยง ควรดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลง ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา

ที่มารูปภาพ : Getty Imaged