
นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) พร้อมคณะ ประสบความสำเร็จในการบันทึกภาพ "จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย" สัตว์ที่มีสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในธรรมชาติ บริเวณปากกะซาว คลองชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โดยภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า แสดงให้เห็นจระเข้ขนาดใหญ่กำลังนอนอาบแดดบนโขดหินริมน้ำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้และพุ่มไม้ปกคลุม
การค้นพบนี้เป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของทีมวิจัยที่ได้ติดตามประชากรจระเข้น้ำจืดในพื้นที่มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยมีการลงพื้นที่สำรวจร่องรอย และติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าเป็นประจำทุกเดือน โดยในอดีตพื้นที่ดังกล่าวนี้เคยมีรายงานการพบจระเข้ล่าสุดเมื่อปี 2556 และตามคำบอกกล่าวของชาวบ้านว่าพบเห็นอยู่เรื่อยมา

สรุปข่าว
สำหรับจระเข้น้ำจืดไทย หรือที่เรียกกันว่า จระเข้สยาม จระเข้บึง มีขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ โตเต็มที่ ยาวประมาณ 3-4 เมตร เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10-12 ปี วางไข่ครั้งละ 20-48 ฟอง มีระยะเวลาฟักไข่นาน 68 - 85 วัน โดยจะเริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคม ด้วยการขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ
พฤติกรรมของจระเข้ชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ไหลไม่แรงนัก หรือแหล่งน้ำนิ่ง และชอบอยู่หรือหากินเดี่ยว ๆ อาหารหลักคือ ปลาและสัตว์ขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหารเพียงพอ ในการกินแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้ 10-15 วันโดยไม่ต้องกินอาหารอีก
จระเข้น้ำจืดไทยมีการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ของไทย แต่ปัจจุบันประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างมาก จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีหนึ่งของอนุสัญญาไซเตส ซึ่งเป็นบัญชีของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในสถานะถูกคุกคามอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ การพบจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นข้อมูลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประชากรจระเข้ในพื้นที่นี้ยังคงอยู่รอด และระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงยังคงมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะรองรับสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ ซึ่งเป็นความหวังสำหรับการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยให้คงอยู่ในธรรมชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการอนุรักษ์ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่คลองชมพูที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำในอนาคต
ที่มาข้อมูล : ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก)
ที่มารูปภาพ : ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก)

Wasana Chutisinthu
(Wasana)