
งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Science เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2024 ชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์อาจส่งผลให้ยุคน้ำแข็งครั้งต่อไปไม่เกิดขึ้นอีกเลย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวัฏจักรธรรมชาติที่เคยดำเนินมาตลอดล้านปีที่ผ่านมา
นักวิจัยระบุว่า ปกติแล้ว โลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งทุก ๆ 10,000 ปีตามวัฏจักรของวงโคจรโลก หรือที่เรียกว่าคามิแลงโควิช (Milankovitch Cycles) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแกนเอียง การหมุนแกน และรูปทรงของวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุดพบว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมของมนุษย์กำลังรบกวนกระบวนการนี้ และอาจทำให้โลกอบอุ่นเกินกว่าที่จะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง

สรุปข่าว
ศาสตราจารย์สตีเฟน บาร์กเกอร์ จากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์กล่าวว่า “เราพบว่ารูปแบบของการเกิดยุคน้ำแข็งและช่วงอบอุ่นมีความเป็นระบบและสามารถคาดการณ์ได้ แต่ขณะนี้ก๊าซเรือนกระจกจากมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจากวัฏจักรธรรมชาติ” นักวิทยาศาสตร์คาดว่าหากไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติม โลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งครั้งถัดไปภายใน 10,000 ปี แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจมีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโลกไปอีกนับหมื่นปี
การศึกษานี้ช่วยให้เข้าใจถึงผลกระทบระยะยาวของภาวะโลกร้อน และชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่อาจย้อนกลับได้

Wasana Chutisinthu
(Wasana)