3 มีนาคม วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก

วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปีตรงกับวันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก (World Wildlife Day) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2556 จากการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 (CITES CoP16) ระหว่างวันที่ 3 - 14 มีนาคม 2556 ณ กรุงเทพมหานคร 

ต่อมาที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 68 ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ให้วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปีเป็น "วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก ภายใต้องค์การสหประชาชาติ United Nations World Wildlife Day" พร้อมทั้ง

เชิญชวนให้รัฐสมาชิกและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับโลก ภูมิภาค และอนุภูมิภาค ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญดังกล่าวโดยผ่านแนวคิดหลัก (Theme) ที่กำหนดขึ้นในแต่ละปี 

โดยในปี พ.ศ. 2568 แนวคิดหลักที่กำหนดขึ้น คือ “Wildlife Conservation Finance : Investing in People and Planet” “การเงินสำหรับ การอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ลงทุนเพื่อปกป้องมนุษยชาติและโลก” เป็นการนำหลักการลงทุนมาใช้เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ให้เกิดความยั่งยืนและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์และโลก แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพของความหลากหลายทางชีวภาพ และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างมนุษย์ สัตว์ป่า พืชป่า และโลก ซึ่งดำเนินติดต่อกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ครบรอบ 12 ปี

 

ปัจจุบัน สัตว์ป่าและพืชป่ากำลังเผชิญกับภัยคุกคามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การล่าสัตว์และค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินขนาด จากรายงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) พบว่า สัตว์ป่ากว่า 42,000 ชนิดทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

 

ในประเทศไทยเองก็เผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน โดยสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น เสือโคร่ง ช้างป่า กระซู่ และนกเงือก ต่างอยู่ในสถานะที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน

3 มีนาคม วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก

สรุปข่าว

วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก” เพื่อให้สาธารณชนได้ตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่มีต่อมนุษยชาติ

แนวทางการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า

เพื่อปกป้องสัตว์ป่าและพืชป่าให้คงอยู่ต่อไป เราสามารถช่วยกันได้ผ่านแนวทางดังต่อไปนี้

1.    หลีกเลี่ยงการซื้อขายผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า เช่น งาช้าง เขี้ยวเสือ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์หายาก

2.    สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเลือกเที่ยวชมสถานที่ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและไม่สนับสนุนธุรกิจที่เอาสัตว์ป่ามาใช้ในทางที่ผิด

3.    ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง เช่น ลดการตัดไม้ทำลายป่า ลดการใช้กระดาษและผลิตภัณฑ์จากไม้ที่มาจากป่าธรรมชาติ

4.    ร่วมสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคให้กับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม หรือเข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าและฟื้นฟูระบบนิเวศ

5.    กระจายความรู้และสร้างความตระหนัก ผ่านการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าผ่านโซเชียลมีเดียและชุมชนของตนเอง

วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลกไม่ได้เป็นเพียงแค่วันรำลึก แต่เป็นโอกาสที่เราจะทบทวนถึงบทบาทของเราในการปกป้องธรรมชาติ การอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่าไม่ใช่แค่หน้าที่ของรัฐบาลหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคน เพราะโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ คือโลกที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับทุกชีวิต “ปกป้องสัตว์ป่าและพืชป่า เพื่ออนาคตของโลก

avatar

null null
(tawee_pen)

แท็กบทความ

TNNEARTH
วันสัตว์ป่าและพืชป่าโลก
worldwildlifeday
WildlifeConservationFinance
CITES
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช