นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ จิสด้า เปิดเผยผลการดำเนินของในโครงการ NASA ASIA-AQ ที่ทีมประเทศไทย นำโดย GISTDA และคณะทำงานการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากนานาประเทศ ในการวิเคราะห์ปัญหาฝุ่น ของไทย หลังนำเครื่องบิน 2 ลำ จากองค์การ NASA พร้อมด้วยเครื่องมือตรวจมลพิษต่างๆ ทำการบินตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดเชียงใหม่ บินแบบขึ้น-ลงที่ระดับความสูง 50-3,000 เมตร
เบื้องต้นผลจากการบินเก็บข้อมูล พบว่า ฝุ่นจำนวนมากจะอยู่ด้านล่างและเมื่ออยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป ปริมาณฝุ่นจะน้อยลง อีกทั้งความสูงยังสามารถบอกพฤติกรรมการเกิดฝุ่นได้ด้วย เช่น หากฝุ่นอยู่ในความสูงมากกว่า 2 กิโลเมตร อาจมีความเป็นไปได้ที่ฝุ่นนี้เกิดจากที่อื่นและเคลื่อนย้ายมาในบริเวณที่พบค่าฝุ่น
สรุปข่าว
ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์เบื้องต้น ยังพบว่า “การเผาชีวมวล” (Biomass Burning) เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษจากฝุ่นละอองในภาคเหนือของประเทศไทย ขณะที่มลพิษทางอากาศในกรุงเทพฯ เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ร่วมกับการเผาชีวมวล ซึ่งความแตกต่างกันของแหล่งที่มาเหล่านี้ ทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเข้าใจถึงปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆ ของการเกิดมลพิษในระดับภูมิภาค เพื่อให้เกิดการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหา การป้องกัน และบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังเห็นได้ชัดว่าจากสถิติหลายปีที่ผ่านมา มลพิษในประเทศไทยโดยเฉพาะ PM2.5 จะมีฤดูกาลที่ชัดเจนคือกรุงเทพจะเริ่มมีฝุ่นเยอะในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคม ในขณะที่ภาคเหนือจะเริ่มมีปริมาณฝุ่นเยอะมากขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี อีกทั้งเมื่อดูจากหลายปัจจัยพบว่าเชียงใหม่มีปริมาณสูงกว่ากรุงเทพเป็นอย่างมาก
โครงการ NASA ASIA-AQ มีเป้าหมายศึกษาวิจัยระหว่างปี 2567 -2569 รวมระยะเวลา 3 ปี เพื่อค้นคว้าข้อมูลใหม่ เพื่อสนับสนุนการบรรเทาและแก้ไขปัญหามลพิษของประเทศไทยอย่างจริงจัง รวมไปสนับสนุนข้อมูลการจัดทำร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้
Sane Srisukhot
(Sane Srisukhot)