วิกฤตอากาศกระทบกาแฟบราซิล เกษตรกรเร่งปรับตัวสู่ความยั่งยืน

อุตสาหกรรมกาแฟในบราซิลกำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยในปี 2024 การผลิตกาแฟของประเทศอยู่ที่ 54.79 ล้านกระสอบ (60 กิโลกรัมต่อกระสอบ) ลดลง 0.5% จากปีก่อนหน้า ตามรายงานของบริษัทจัดหาสินค้าแห่งชาติ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบคือภาวะแห้งแล้งยาวนานและอุณหภูมิที่ร้อนจัด ซึ่งทำให้ผลผลิตลดลงในหลายพื้นที่เพาะปลูก

พื้นที่ Cerrado Mineiro ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกาแฟสำคัญ ได้รับผลกระทบหนักจากภัยแล้งที่ยาวนาน อุณหภูมิสูงแตะ 40°C และเกิดน้ำค้างแข็งในบางช่วง ส่งผลให้ต้นกาแฟเสียหายหนัก เกษตรกรในพื้นที่บางส่วนประสบปัญหาการขาดน้ำกว่า 400 มิลลิเมตร ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างถาวร

วิกฤตอากาศกระทบกาแฟบราซิล  เกษตรกรเร่งปรับตัวสู่ความยั่งยืน

สรุปข่าว

อุตสาหกรรมกาแฟบราซิลประสบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่ Cerrado Mineiro ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและอุณหภูมิสูง การผลิตลดลง 0.5% ในปี 2024 หนึ่งในมาตรการที่ช่วยรับมือคือการใช้เทคโนโลยีชลประทานอัจฉริยะและการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับต้นกาแฟ

เพื่อลดผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน Expocacer ซึ่งเป็นสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟใน Cerrado ได้ริเริ่มมาตรการรับมือด้วยการนำเทคโนโลยีและแนวทางการจัดการแบบบูรณาการมาใช้ เช่น ระบบชลประทานอัจฉริยะ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และจุลินทรีย์ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของราก รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านมาตรฐาน Brazilian GHG Protocol นอกจากนี้ยังมีโครงการ Educampo ที่ร่วมกับ Sebrae Minas เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนเกษตรกรในด้านการบริหารจัดการฟาร์ม

Désio Rodrigo เจ้าของฟาร์ม Lidon Cachoeira Alta เปิดเผยว่า โครงการ Educampo ช่วยให้เขาปรับปรุงการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก ลดต้นทุน และลดการใช้สารเคมีลงได้ พร้อมเสริมว่าการสนับสนุนจากที่ปรึกษาทางเทคนิคทำให้ฟาร์มสามารถใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น และวางแผนรับมือกับความท้าทายด้านสภาพอากาศได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ที่มาข้อมูล : teaandcoffee.net

ที่มารูปภาพ : Reuters