
สภาพลำน้ำมูล ที่ไหลผ่าน ตำบลสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) พบว่าระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว จนบางจุดพบสันดอนดินทรายโผล่ขึ้นมากลางลำน้ำให้เห็นกันแล้ว แม้จะยังไม่เข้าสู่หน้าแล้ง ชาวบ้านจึงเกิดความกังวลว่า ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่จะไม่เพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงต้นข้าวไปจนถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยว เสี่ยงทำให้ข้าวนาปรังที่ปลูกเหี่ยวเฉา ยืนต้นตายได้รับความเสียหายได้สูง

สรุปข่าว
สาเหตุที่ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ลดลงอย่างรวดเร็ว มาจากชาวนาในพื้นที่ต่างพากันเร่งสูบน้ำจากลำน้ำมูลไปใส่ในที่นาของตนเอง เพื่อปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ รวมมากกว่า 200 ไร่ ทั้งที่หน่วยงานภาครัฐก็มีการประกาศแจ้งล่วงหน้าแล้วว่า ปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำ เขื่อน และลำน้ำธรรมชาติ ในพื้นที่ปีนี้มีน้ำเหลือน้อย ต้องสงวนน้ำไว้ใช้ผลิตประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคมาเป็นอันดับแรก ส่วนน้ำเพื่อการเกษตรทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน ไม่สามารถส่งจ่ายน้ำสำหรับทำนาปรังได้ จึงขอให้งดทำนาปรังในปีนี้แต่ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือ
จากภาพมุมสูง พบว่าบริเวณบ้านสินสมบูรณ์ ตำบลสัมฤทธิ์ มีชาวนาหลายรายกำลังสูบน้ำจากแม่น้ำมูล ขึ้นมาเพาะปลูกข้าวนาปรัง ชาวบ้านในพื้นที่ จึงเกิดความวิตกกังวลว่า ปีนี้จะมีน้ำไม่พอใช้ไปตลอดหน้าแล้ง เนื่องจากประชาชนในอำเภอพิมาย ส่วนใหญ่จะทำการเกษตร และทำนามากที่สุด แต่ก็ยังมีชาวนาหลายรายฝืนทำนาปรัง เพราะหวังจะได้ผลผลิตเพิ่ม หลังจากโรงสีรับซื้อข้าวในราคาที่สูงขึ้นช่วงนี้
ที่มาข้อมูล : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ จ.นครราชสีมา
ที่มารูปภาพ : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ จ.นครราชสีมา