อดีตปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด ขอลี้ภัยในรัสเซีย หลังกบฏยึดอำนาจ

สื่อทางการของรัสเซีย รายงานอ้างแหล่งข่าวรัฐบาลรัสเซียว่า บาชาร์ อัล-อัสซาด อดีตประธานาธิบดีซีเรีย พร้อมครอบครัว เดินทางถึงยังรัสเซียแล้ว ภายหลังรัฐบาลรัสเซียให้การลี้ภัย ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม

คำยืนยันนี้เกิดขึ้นภายหลังกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ยืนยันว่า อดีตประธานาธิบดี อัสซาด เดินทางออกจากซีเรียแล้ว

ขณะเดียวกัน สื่อทางการของรัสเซียรายงานในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียอยู่ระหว่างการติดต่อกับแกนนำฝ่ายต่อต้านผู้ยึดครองอำนาจในซีเรีย ซึ่งได้รับคำยืนยันกลับมาว่า ฐานทัพและสถาบันทางการทูตของรัสเซียในดินแดนของซีเรีย จะได้รับความคุ้มครองความปลอดภัย

นอกจากนี้ สื่อทางการของรัสเซียยังรายงานด้วยว่า รัฐบาลรัสเซียร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประชุมหารือเป็นการฉุกเฉิน ต่อกรณีซีเรียเปลี่ยนระบอบการปกครอง ภายใต้ฝ่ายต่อต้าน

ด้าน นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล พร้อมนายอิสราเอล คาตซ์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดสังเกตการณ์ในเขตที่ราบสูงโกลัน ที่อิสราเอลควบคุมติดพรมแดนซีเรีย ก่อนกล่าวแสดงความยินดีต่อการโค่นอำนาจของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด ระบุเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์และเป็นผลลัพธ์โดยตรงจากการที่อิสราเอลโจมตีจนฝ่ายสนับสนุนของอัสซาด ทั้งอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน อ่อนกำลัง พร้อมกับสั่งการทหารอิสราเอลเข้าควบคุมพื้นที่ในเขตกันชนกับซีเรีย ที่สหประชาชาติหรือยูเอ็น ตรวจสอบ เพื่อรับประกันความมั่นคงของอิสราเอล และจะไม่ยอมให้กองกำลังปรปักษ์เข้ามาตั้งฐานอยู่บริเวณพรมแดน

ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ แถลงจากทำเนียบขาวว่า สหรัฐฯจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในซีเรีย เพื่อช่วยกันบริหารจัดการความเสี่ยง หลังจากกลุ่มกบฏซีเรียบุกเข้าถึงกรุงดามัสกัส และสามารถโค่นอำนาจของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด สหรัฐฯ จะสนับสนุนกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของซีเรียไปตลอดช่วงเวลาส่งผ่านอำนาจ 

นายไบเดน ระบุด้วยว่า ซีเรียอยู่ช่วงเวลาเสี่ยงและไม่แน่นอน และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไม่มีรัสเซีย อิหร่าน หรือ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ยึดบทบาทที่ทรงอิทธิพลในซีเรีย