สรุปข่าว
คุณณัฐพล วิไลพรรัตนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกศลอุตสาหกรรม เล่าว่า ถ่านม้าขาว ไม่เคยหายไปจากตลาดในประเทศไทยเลย ยังคงมีจำหน่ายมาตลอด 60 กว่าปี เพียงแต่ไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจังมานานถึง 30 ปี ซึ่งช่องทางจำหน่ายหลัก ๆ แต่เดิมจะมีจำหน่ายตามหัวเมืองและต่างจังหวัด แต่ในช่วงการระบาดของโควิด 19 ได้เริ่มมีการวางแผน ที่จะกลับมารุกขยายตลาดในไทยให้มากขึ้นอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จึงรีแบรนด์ใหม่ ด้วยการปรับโลโก้ให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงแตกไลน์สินค้าใหม่เป็น ถ่านอัลคาไลน์ ภายใต้แบรนด์ ม้าขาว หรือ ไวท์ฮอส (Whitehorse) ตลอดจนวางแผนการทำตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ได้รู้จัก และใช้สินค้าของบริษัทฯ
คุณณัฐพล ฉายภาพของตลาดรวมถ่ายไฟฉายในไทย ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ตลาดถ่านไฟฉายในประเทศ มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท รวมทั้งถ่านแมงกานิส และถ่านอัลคาไลน์ โดยตลาดมีลักษณะทรงตัว คือบางปีเติบโตขึ้นเล็กน้อย และบางปีก็หดตัว
ส่วนแบ่งตลาด แบ่งตามสัญชาติของแบรนด์ พบว่าแบรนด์ญี่ปุ่น ครองส่วนแบ่งตลาดในไทยสูงสุดที่ร้อยละ 80 และครองส่วนแบ่งในระดับนี้มานานกว่า 30 ปี
ส่วนแบรนด์อเมริกัน และยุโรป มีส่วนแบ่งตลาดราว ๆ ร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 10 เช่นเดียวกัน แบรนด์จีน ก็มีส่วนแบ่งตลาดราว ๆ ร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 10
แต่สำหรับแบรนด์ไทย มีส่วนแบ่งตลาดเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น โดยมีแบรนด์ ม้าขาว เป็นแบรนด์เก่าแก่เพียงรายเดียวที่ยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบัน และมีแบรนด์ไทย อื่น ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในภายหลังแต่ไม่ได้มีโรงงานผลิตของตัวเอง เมื่อดูทิศทางของตลาดโลก พบว่า ตลาดถ่านอัลคาไลน์ มีแนวโน้มเติบโตดี โดยปีที่ผ่านมา ตลาดมีมูลค่าอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าอีก 10 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 530,000 ล้านนบาท หรือเติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 5.03 ต่อปี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งจากตลาดโลกที่ร้อย 21 หรือมูลค่าประมาณ 111,300 ล้านบาท
ผู้บริหาร ถ่านม้าขาว กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดโลกส่วนใหญ่จะใช้ถ่านอัลคาไลน์เป็นหลักแล้ว แต่สำหรับในไทยส่วนใหญ่ยังเป็นถ่านแมงกานีส เพราะมีราคาถูกกว่า และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา คิดว่าคนไทยใช้ถ่านในราคาที่ไม่ยุติธรรมนัก จึงมีความตั้งใจที่จะทำให้ตลาดกลับมาสู่มูลค่าที่แท้จริงก่อน ดังนั้น เรื่องแรกที่จะทำ คือจะเริ่มด้วยการทำราคาที่ถูกต้องก่อน และโจทย์ถัดไปคือการสื่อสารไปยังลูกค้าว่า สินค้าของเราดีอย่างไร
ความท้าทายของตลาดถ่านไฟฉายในไทย คือ ตลาดถูกผูกขาดมายาวนาน ทำให้คนไทยใช้ถ่านไฟฉายที่มีราคาสูง และมียี่ห้อที่มีมาตรฐานให้เลือกไม่มากนัก ประกอบกับผู้บริโภคมีความเข้าในในเรื่องการใช้งานของถ่านแต่ละประเภทไม่เท่ากัน ดังนั้น เชื่อว่า ราคาที่ถูกกว่า จะช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการตัดสินใจซื้อสินค้า และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในด้านคุณภาพและราคา
ส่วนการที่บริษัทฯ สามารถทำราคาได้ถูกกว่า นั่นเป็นเพราะเทคโนโลยีการผลิตถ่านนิ่งมานานแล้ว ไม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอะไรใหม่ หรือไม่มีอะไรที่หวือหวานักในอุตสรหกรรมนี้ ดังนั้น ราคาจึงไม่ควรแพง
ขณะเดียวกัน มองด้วยว่า การทำธุรกิจในยุคนี้ แข่งขันกันที่ต้นทุน ใครสามารถทำของดีและถูก นั่นหมายถึงการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้
ส่วนแผนการรุกทำตลาดของ ถ่านม้าขาว จะใช้งบการตลาดประมาณร้อยละ 10 ของยอดขาย
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมาย ที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากปัจจุบันร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 10 ซึ่งมีความตั้งใจที่จะทำให้ได้ภายใน 3 ปี
ที่มาข้อมูล : -