TNN เรือชนสะพานบัลติมอร์ คาดบริษัทประกันต้องจ่ายสินไหมชดเชยนับแสนล้าน!

TNN

World

เรือชนสะพานบัลติมอร์ คาดบริษัทประกันต้องจ่ายสินไหมชดเชยนับแสนล้าน!

เรือชนสะพานบัลติมอร์ คาดบริษัทประกันต้องจ่ายสินไหมชดเชยนับแสนล้าน!

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เริ่มสอบสวนเหตุการณ์ "เรือชนสะพานบัลติมอร์" ทำให้คนงานก่อสร้างเสียชีวิต 6 ราย คาดบริษัทประกันอาจต้องจ่ายสินไหมชดเชยนับแสนล้านบาท

คืบหน้าเรือชนสะพานบัลติมอร์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่สอบสวนจากหลายหน่วยงานได้ขึ้นไปยังเรือต้าหลี่ เรือสินค้าติดธงสิงคโปร์ลำเกิดเหตุ เพื่อเก็บข้อมูลจากกล่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง หรือ Voyage Data Recorder (VDR) ที่มีลักษณะคล้ายกล่องดำของเครื่องบินไว้แล้ว


หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ระบุว่า บนเรือลำนี้มีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่มากกว่า 1.5 ล้านแกลลอน หรือ 5.68 ล้านลิตร และมีสินค้าที่จัดเป็นวัตถุอันตรายอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ขณะนี้ไม่พบว่ามีอันตรายต่อสาธารณชน ส่วนคนบนเรือมีทั้งหมด 23 คน เป็นกัปตัน 2 คนและลูกเรืออีก 21 คน ทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย ไม่ได้รับบาดเจ็บและยังคงอยู่บนเรือ


นอกจากนี้ มีการเปิดเผยเสียงสนทนาผ่านวิทยุสื่อสาร ก่อนที่เรือสินค้าจะพุ่งชนสะพาน ฟรานซิส สกอตต์ คีย์ ซึ่งเป็นการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ซึ่งประสานงานกันกลางดึก เพื่อให้ปิดสะพานไม่ให้รถขึ้น จากทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงให้เคลียร์รถและคนลงจากสะพานทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มคนงานก่อสร้างรวมอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีเวลาเพียงประมาณ 90 วินาทีเท่านั้น ก่อนที่เรือจะพุ่งชนตอม่อสะพาน


ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือทะเลจากมหาวิทยาลัยแคมป์เบลล์บอกว่า การสอบสวนจะมุ่งเน้นไปที่การหาสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าดับบนเรือต้าหลี่ ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า เรือประสบเหตุไฟฟ้าดับแบบกะทันหัน ทำให้เรือสูญเสียแรงขับชั่วคราว ก่อนที่เรือจะพุ่งชนเสาค้ำยันสะพานบริเวณปากอ่าวบัลติมอร์ จนสะพานพังถล่มลงมาทั้งหมด


นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวสะพานแล้ว ยังมีคนงานที่กำลังซ่อมผิวถนนอยู่บนสะพานร่วงลงไปในแม่น้ำ 8 คน ในจำนวนนี้ได้รับการชีวิตเอาไว้ได้ 2 คน ส่วนอีก 6 คนเสียชีวิต ทีมนักประดาน้ำได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้แล้ว 2 ราย แต่การค้นหาอีก 4 รายที่เหลือต้องระงับไปก่อน เนื่องจากบริเวณที่ค้นหามีความไม่ปลอดภัยจากโครงสร้างของสะพานที่จมอยู่ในน้ำซึ่งไม่มั่นคงแข็งแรง และอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีรถยนต์อีกจำนวนหนึ่งที่ติดอยู่กับซากสะพานด้วย


ขณะที่การเก็บกู้ซากสะพานเพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือ ผู้ชี่ยวชาญมองว่าอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน แต่ไม่น่าจะถึงปีเพราะมีเทคโนโลยีในการเก็บกู้ชิ้นส่วนหรือเหล็กกล้า โดยภาพที่ถ่ายเมื่อวัรพุธ พบว่ามีเรือจำนวนมากทอดสมอรออยู่ทั้งขาเข้าและขาออกจากท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่อันดับ 9 ของสหรัฐฯ ส่วนการสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมและขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NTSB บอกว่าอาจใช้เวลา 12-24 เดือน


นักวิเคราะห์จาก Morningstar DBRS ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดอันดับการประกันภัยในระดับโลก ระบุว่า เหตุสะพานถล่มจากเรือสินค้าชนครั้งนี้ อาจทำให้บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหมชดเชยสูงถึงระหว่าง 2,000 - 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 73,000-145,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นค่าเสียหายที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในอุบัติเหตุการเดินเรือ

ส่วนตัวเลขความเสียหายต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สะพานและเส้นทางเดินเรือใช้การไม่ได้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อการเดินเรือที่ท่าเรือบัลติมอร์ จึงทำให้ยังประเมินความเสียหายแน่ชัดไม่ได้ แต่เป็นไปได้ว่า ค่าสินไหมทดแทนจะแซงหน้าเหตุเรือสำราญ Costa Concordia อับปางนอกชายฝั่งอิตาลีเมื่อปี 2012

เหตุการณ์เรือชนสะพานครั้งนี้ทำให้ท่าเรือบัลติมอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ต้องปิดทำการ ทำให้เกิดความกังวลต่อห่วงโซ่อุปทานของโลก โดยเฉพาะการขนส่งยานยนต์ โดยเมื่อปีที่แล้ว มีรถยนต์และยานยนต์ต่างๆ ที่ถูกขนส่งผ่านท่าเรือบัลติมอร์มากกว่า 750,000 คัน นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเกษตรและเครื่องจักรกลในการก่อสร้างอีกด้วย



ภาพจาก Reuters

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง