ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาทะลุ 23,000 ราย WHO กังกลโรงพยาบาลล่มสลาย

สงครามอิสราเอล-ฮามาสยังดุเดือด "WHO" กังกลโรงพยาบาลในกาซาล่มสลาย ล่าสุด 24 ชม.ที่ผ่านมากาซามีผู้เสียชีวิต 126 ราย ยอดสะสมพุ่ง 23,200 ราย

เกาะติดความคืบหน้าสงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ล่าสุด เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO แสดงความกังวล เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการล่มสลายของโรงพยาบาลในภาคใต้และกลางของฉนวนกาซา โดยมีเจ้าหน้าที่แพทย์และผู้ป่วยหลายร้อยคน หลบหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อเอาชีวิตรอด ทั้งนี้ มีโรงพยาบาลในฉนวนกาซาเพียงประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้นที่ยังเปิดดำเนินการอยู่ และบางแห่งเปิดเพียงบางส่วนเท่านั้นภายหลังอิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีต่อเนื่องหลายเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฮามาส เพื่อตอบโต้การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว

การสู้รบกันยังคงเข้มข้นในพื้นที่ภาคกลางและใต้ของกาซา ยิ่งเพิ่มแรงกดดันเป็นพิเศษต่อโรงพยาบาลที่ยังเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งรับภาระหนักเกินไปอยู่แล้ว

ฌอง เคซี ผู้ประสานงานทีมแพทย์ฉุกเฉินของ WHO ในกาซา แถลงข่าวในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านวิดีโอลิงค์ว่า สิ่งที่เราเห็น คือความกังวลอย่างแท้จริงรอบโรงพยาบาลอัล อัคซอ และการสู้รบที่รุนแรงขึ้นใกล้โรงพยาบาลยูโรเปียน กาซา และใกล้โรงพยาบาลนัสเซอร์อย่างมาก เราไม่สามารถสูญเสียหน่วยงานสาธารณสุขเหล่านี้ และต้องได้รับการปกป้องอย่างที่สุด นี่คือแนวทางสุดท้ายของการดูแลสุขภาพระดับทุติยภูมิและตติยภูมิที่กาซามี - จากเหนือจรดใต้ มันถูกทิ้งโรงพยาบาลแล้วโรงพยาบาลเล่า

เคซี กล่าวว่า ผู้ป่วยเสี่ยงชีวิตในการไปโรงพยาบาลเมืองข่าน ยูนิส ภาคใต้ของกาซาเมื่อวานนี้(9 ม.ค.) เพราะยังมีการยิงต่อสู้กัน โดยระหว่างเดินทางไปเยี่ยมโรงพยาบาลอัลอัคซอ ภาคกลางของกาซาเมื่อสองวันก่อน เขาพบว่า ร้อยละ 70 ของเจ้าหน้าที่ ละทิ้งตำแหน่งของตัวเอง และในคืนเดียวกันนั้นเอง ผู้ป่วยหลายร้อยคนที่อาการดีพอที่จะหลบหนีได้ ก็ปฏิบัติตามกัน

ด้านเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ แถลงต่อสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้(9 ม.ค.) กังวลว่า อิสราเอลอาจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในกาซา และคำแนะนำทางกฎหมายที่เขาได้รับจนถึงตอนนี้ก็คือ อิสราเอลปฏิบัติตาม แต่ก็ยังมีคำถามที่ต้องตอบ อิสราเอลสามารถทำได้ดีกว่านี้ในการหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือน

อังกฤษสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่ก็เรียกร้องให้กองทัพยับยั้งชั่งใจ และดำเนินการภายในกฎหมายระหว่างประเทศในการโจมตีในกาซา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักในดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้

ส่วนแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล เปิดการเจรจาเกี่ยวกับสงครามในกาซา โดยทั้งสองหารือการปฏิบัติการที่เข้มข้นทั่วฉนวนกาซา เพื่อ “กำจัด” ขีดความสามารถของฮามาสและขีดความสามารถด้านการปกครอง และทั้งสองคนยังได้หารือเรื่องความตึงเครียดด้านความมั่นคงทั่วตะวันออกกลางด้วย

บลิงเคน ซึ่งเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลและคณะรัฐมนตรีสงครามของเขาด้วย และได้เรียกร้องให้ผู้นำอิสราเอลหลีกเลี่ยงความสูญเสียของพลเรือนในสงครามในกาซา และรักษาเส้นทางสู่การสถาปนารัฐปาเลสไตน์

ทั้งนี้ การพบหารือกันเกิดขึ้นขณะที่กระทรวงสาธารณสุขในกาซาของกลุ่มฮามาส ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 126 รายในกาซาในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีรายงานการเสียชีวิตในโรงพยาบาลแห่งเดียวภาคกลางของกาซาถึง 57 ราย ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตในกาซาเพิ่มเป็นมากกว่า 23,200 รายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

ประชาชนหลายพันคนร่วมพิธีศพของวิสซัม ทาวิล ผู้บัญชาการกลุ่มติดอาวุธรัดวาน ของฮีซบอลเลาะห์ ในภาคใต้ของเลบานอนเมื่อวานนี้ โดยโลงศพของเขาคลุมด้วยธงสีเหลืองของฮีซบอลเลาะห์ ขณะเคลื่อนไปตามถนนของหมู่บ้าน

กองทัพอิสราเอล สังหารทาวิลในการโจมตีภาคใต้ของเลบานอนในวันจันทร์ที่ผ่านมา ทาวิลและนักรบฮีซบอลเลาะห์อีกหลายคน ถูกสังหารเมื่อรถยนต์ที่พวกเขาใช้ ถูกโจมตีในหมู่บ้านมาจดัล เซลม์ ห่างจากพรมแดนประมาณ 6 กิโลเมตร

ทาวิล ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติการของฮีซบอลเลาะห์ในภาคใต้ของเลบานอน และก่อนหน้านี้ ปฏิบัติภารกิจอยู่ในซีเรีย ซึ่งทางกลุ่มให้การสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในสงครามกลางเมือง

ฮีซบอลเลาะห์ ระบุว่า ทาวิลเคยเข้าร่วมในการบุกข้ามพรมแดนเข้าอิสราเอลในปี 2549 ซึ่งฮีซบอลเลาะห์จับตัวทหารอิสราเอลได้ 2 นาย จุดชนวนให้เกิดสงครามต่อกันด้วย

ส่วนเมื่อวานนี้ ฮีซบอลเลาะห์ โจมตีฐานทัพอิสราเอลด้วยโดรนจากเลบานอน ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งแรกที่ทางกลุ่มประกาศว่าเป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้การลอบสังหารหลายครั้งของอิสราเอลในเลบานอน

นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีของเลบานอน กล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เมื่อวานนี้ว่า ประเทศของเขาพร้อมที่จะเปิดการเจรจาเรื่องเสถียรภาพระยะยาวพรมแดนทางตอนใต้ของประเทศกับอิสราเอล

สำนักงานของมิคาติ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า เขาได้พบหารือกับฌอง-ปิแอร์ ลาซลอยซ์ ผู้ช่วยเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายปฏิบัติการสันติภาพ ในกรุงเบรุต เพื่อเน้นย้ำความพร้อมของเลบานอนในการเข้าสู่การเจรจาเพื่อทำให้เกิดเสถียรภาพระยะยาวตามแนวพรมแดนภาคใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล

มิคาติ ระบุว่า เราต้องการเสถียรภาพถาวรและเรียกร้องให้แก้ปัญหาสันติภาพอย่างยั่งยืน แต่ในทางตรงกันข้าม เราได้รับคำเตือนผ่านเจ้าหน้าที่ทูตระหว่างประเทศเกี่ยวกับสงครามในเลบานอน