หุ้นไทย 26 เมษายน 2567 ปิดลบ 4.33 จุด เกาะติดสถานการณ์ตะวันออกกลาง

  SET ปิดวันนี้ที่ 1,359.94 จุด ลดลง 4.33 จุด (-0.32%) มูลค่าซื้อขาย 40,149.83 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีย่อตัว นักลงทุนรอติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางทำให้ชะลอแรงซื้อและมีแรงขายออกมาลดความเสี่ยง รวมทั้งถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวลง โดยเฉพาะ BJC จากความกังวลผลประกอบการไตรมาส 1/67 อาจไม่สดใส แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ ติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียน และการรายงานตัวเลขส่งออก ขณะที่ต่างประเทศติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ โดยให้กรอบแนวรับ 1,350-1,355 และแนวต้าน 1,370 แนวต้านถัดไปที่ 1,380 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,359.94 จุด ลดลง 4.33 จุด (-0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 40,149.83 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีย่อตัว โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,358.26 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,366.24 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 209 หลักทรัพย์ ลดลง 253 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 192 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัว นักลงทุนรอติดตามสถานการณ์ตะวันออกกลางจึงชะลอแรงซื้อและมีแรงขายออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง หลังจากก่อนหน้านี้สถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นช่วงวันหยุด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ลดช่วงลบ และได้แรงหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อ่อนตัว รวมทั้งการประกาศผลประกอบการของกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐที่ดีกว่าคาด

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยถูกกลุ่มค้าปลีกกดดันตลาด โดยเฉพาะ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) จากความกังวลผลประกอบการไตรมาส 1/67 อาจไม่เป็นไปตามคาด ส่งผลให้กลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงตาม

แนวโน้มสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นไทยคาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ เข้าสู่ช่วงเก็งกำไรหุ้นรายตัว เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 รวมทั้งติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกของไทย ขณะที่ต่างประเทศสัปดาห์หน้าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และติดตามการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐในวันศุกร์

พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,350-1,355 และแนวต้าน 1,370 แนวต้านถัดไปที่ 1,380 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,222.32 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,972.55 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,549.51 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 1.00 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,339.66 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,159.26 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท