เปิด 5 สัญญาณเตือนโรคตับ เบื้องต้นมีอะไรบ้าง? ไม่ดื่มก็เสี่ยงได้
เปิด 5 สัญญาณเตือนโรคตับ เบื้องต้นมีอะไรบ้าง? ไม่ดื่มก็เสี่ยงได้
หลายคนอาจคิดว่าโรคตับ เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับผู้ดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้ตับทำงานผิดปกติ โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 สัญญาณเตือนโรคตับที่ไม่ควรมองข้าม แม้จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็เสี่ยงได้ พร้อมทั้งแนะนำกลุ่มเสี่ยงและวิธีป้องกันโรคตับ
5 สัญญาณเตือนโรคตับ ไม่ดื่มก็เสี่ยงได้
1. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ทำงานอะไรก็รู้สึกเหนื่อย โดยหาสาเหตุอื่นไม่พบ
2. ตาขาวมีสีเหลือง ผิวหนังมีสีเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้ม
3. คันตามผิวหนัง เกาแล้วมีรอยแผล ผิวแห้งง่าย
4. ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
5. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร รู้สึกอิ่มเร็วผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตอนของโรคตับได้
โดยหากคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมกัน 2 อาการขึ้นไป และมีความกังวล ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุต่อไป
วิธีป้องกันโรคตับ
1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ การงดดื่มแอลกอฮอล์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคตับ
2. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ
ไวรัสตับอักเสบบีและซีเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับเรื้อรัง การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีและซีสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับได้
3. ทานอาหารที่มีประโยชน์
ทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไขมันต่ำ และไขมันดี เลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ น้ำตาล และโซเดียมสูง สาเหตุของโรคไขมันพอกตับ
4. ควบคุมน้ำหนัก
โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญไขมันและลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
6. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
การตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยตรวจหาโรคตับในระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด
7. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี
สารเคมีบางชนิด เช่น ยาฆ่าแมลง สารเคมีในอุตสาหกรรม สามารถทำลายตับได้ ควรใช้อย่างระมัดระวังและสวมอุปกรณ์ป้องกัน
8. หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด
ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาต้านการอักเสบ ยาสมุนไพร สามารถส่งผลเสียต่อตับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
9. รักษาสุขอนามัย
ล้างมือก่อนทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ
การป้องกันโรคตับนั้นทำได้ง่ายๆ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลเมดพาร์ค, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
ข่าวแนะนำ