ประชุทครม.นัดแรกของทรัมป์ 2.0 จ่อเลิกจ้างพนักงานรัฐครั้งใหญ่เพิ่มอีก

คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กำหนดกรอบสำหรับการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากขึ้นเมื่อวานนี้ (26 กุมภาพันธ์) โดยอิลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเทสลา ผู้นำด้านการลดขนาดองค์กร ได้ให้คำมั่นว่า เขาจะดำเนินการลดรายจ่ายของรัฐลงอย่างรวดเร็ว


ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกของทรัมป์ มัสก์กล่าวว่า เขาตั้งเป้าที่จะลดงบประมาณ 6.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานและอาจส่งผลให้โครงการของรัฐบาลได้รับผลกระทบอย่างมาก ส่วนทรัมป์เองก็ย้ำคำมั่นสัญญาของเขาที่จะไม่ตัดสวัสดิการด้านสุขภาพและเงินเกษียณของประชาชน ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดเงินทั้งหมด

ประชุทครม.นัดแรกของทรัมป์ 2.0 จ่อเลิกจ้างพนักงานรัฐครั้งใหญ่เพิ่มอีก

สรุปข่าว

รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเลิกจ้างพนักงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของทรัมป์

อย่างไรก็ตาม ตามการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ รัฐบาลใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ในช่วงเดือนแรกที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการชำระดอกเบี้ยหนี้ที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและเงินเกษียณอายุที่เพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ


ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังผลักดันให้รัฐสภาขยายเวลาการลดหย่อนภาษีประจำปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานด้านนิติบัญญัติที่สำคัญในการดำรงตำแหน่งวาระแรกของเขา ซึ่งจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปีนี้ โดยคณะกรรมการด้านงบประมาณกลางประเมินว่า การลดหย่อนภาษีประจำปี 2560 ทำให้หนี้ของประเทศเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 36 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน และการลดหย่อนภาษีครั้งใหม่นี้อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี


ส่วนการเลิกจ้างจนถึงขณะนี้ เน้นไปที่พนักงานทดลองงานที่ไม่ได้รับการคุ้มครองการจ้างงานเต็มรูปแบบ 

บันทึกช่วยจำที่เผยแพร่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีเรียกร้องให้มีการ "ลดจำนวนพนักงานอย่างมีนัยสำคัญ" แต่ไม่ได้ระบุว่าควรเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากน้อยขนาดไหน นอกเหนือจากพนักงานพลเรือนของรัฐบาลกลางจำนวน 100,000 คนจากทั้งหมด 2.3 ล้านคนที่ถูกปลดออกแล้ว


ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters

avatar

Natnicha Nijpol
(Natnicha Nijpol)