ไม่มีผู้ชนะ ในสงครามการค้า มรสุมเศรษฐกิจโลก l World Wide Wealth

หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าไปยังทั่วโลก 10 % และยังขึ้นภาษีเพิ่มเติมเจาะไปยังแต่ละประเทศเพิ่มเติมไปอีกตั้งแต่ 10-50  % ในนามของภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน  (Reciprocal Tariffs) เมื่อวันที่ เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ทั่วโลกก็ปั่นป่วนอย่างหนัก ทั้งการเดินหน้าตบเท้าเข้ามาขอเจรจา และการตอบโต้กลับด้วยความร้อนแรง โดยเฉพาะจีนที่โดนทรัมป์จัดหนัก 

สรุปข่าว

สงครามการค้าโลกกำลังเริ่มขึ้นแล้ว และกำลังร้อนแรงขึ้นในทุกขณะ นับตั้งแต่วันที่สหรัฐฯ มีผู้นำชื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และได้เดินปลดแอก หรือปลดปล่อยสหรัฐอเมริกา ผ่านการขึ้นภาษีชาติต่างๆ ทั่วโลก

ขณะที่จีนก็ตอบโต้กลับทุกครั้ง เรียกว่าแบบหมัดสวนหมัด  รวมถึงล่าสุด การเก็บภาษี Reciprocal Tariffs ที่สหรัฐฯ จากจีน จีนก็ประกาศขึ้นกลับเช่นกันที่ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2568 ถัดจากวันที่ Reciprocal Tariffs มีผลในวันที่ 9 เมษายน 2568 

รัฐบาลจีนระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ ละเมิดหลักการพื้นฐานทางเศรษฐกิจและบรรทัดฐานตลาด ไม่เคารพผลลัพธ์ที่สมดุลจากการเจรจาการค้าแบบพหุภาคี และมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์มหาศาลจากการค้าระหว่างประเทศมายาวนาน 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แถลงการณ์ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรเป็นไปในลักษณะที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ย้ำว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษี และการกีดกันทางการค้านำไปสู่ทางตัน 

แต่เรื่องนี้สหรัฐไม่แคร์  ในฟากฝั่งของสหรัฐ ฯ ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้เดินเกมครั้งนี้ก็ยังคงมั่นใจ และเพิ่มเฉยต่อทุกการตอบโต้ พร้อมย้ำชัดเจนว่า ภาษีนำเข้าเป็น “ยา” ต่างชาติต้องยอมจ่าย 

ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH

ที่มารูปภาพ : CANVA

avatar

ทิฆัมพร อยู่กำเหนิด

แท็กบทความ