ทองคำปรับตัวขึ้นแรง เเรงซื้อสูงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลสงครามการค้าอาจรุนแรง

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงทำ All-time high ครั้งที่ 18 ในปีนี้ จากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความกังวลสงครามการค้าอาจรุนแรง ที่อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เนื่องจากทรัมป์ลงนามคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จาก 2.5% เป็น 25% โดยมีผลในวันที่ 2 เม.ย. และกำหนดขึ้นภาษีชิ้นส่วนรถยนต์เพิ่มเติมในวันที่ 3 เม.ย. และทรัมป์ยังมีแผนใช้มาตรการภาษีตอบโต้ (reciprocal tariff) กับ 15 ประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสูงสุด  ขณะที่สำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ (CBO) คาดการณ์ว่า หนี้สาธารณะจะพุ่งขึ้นแตะ 107% ของ GDP ในปี 2029 และอาจแตะ 156% ภายในปี 2055 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ทองคำปรับตัวขึ้นแรง เเรงซื้อสูงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลสงครามการค้าอาจรุนแรง

สรุปข่าว

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงทำ All-time high ครั้งที่ 18 ในปีนี้ จากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความกังวลสงครามการค้าอาจรุนแรง ที่อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เนื่องจากทรัมป์ลงนามคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จาก 2.5% เป็น 25% โดยมีผลในวันที่ 2 เม.ย.

ราคาทองคำเดินหน้าทำ All-time high ต่อเนื่อง และปิดตลาดใก้ล High ของวันติดต่อกัน 2 วัน สะท้อนแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนสัญญาณจาก MACD บ่งชี้ทิศทางเชิงบวก หลังสามารถทะลุขึ้นผ่านเส้น Signal Line ได้สำเร็จ ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways up

สัปดาห์นี้สหรัฐติดตามตัวเลขการจ้างงาน และตลาดแรงงานสหรัฐ ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนมี.ค. ของ ADP การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. และอัตราการว่างงานเดือนมี.ค. นอกจากนี้ติดตามแผนการเรียกเก็บภาษีของทรัมป์

สามารถเก็งกำไรระยะสั้น จากแนวโน้มขาขึ้น โดยเปิดสถานะซื้อบริเวณแนวรับ 3,060 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 3,050 ดอลลาร์ ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเหนือ 49,000 บาท โดยได้รับแรงหนุนจาก Sentiment เชิงลบจากสงครามภาษีที่มีแนวโน้มรุนแรง รวมทั้งสัญญาณเทคนิคที่สนับสนุนทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น ทำให้ราคาทองคำแท่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ แนะนำเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น

ที่มาข้อมูล : ฮั่วเซ่งเฮง

ที่มารูปภาพ : TNN Wealth

avatar

ธนานันท์ แก้ววิเศษ