DELTA "หุ้นดับ" ราคาร่วงแรงสุดในเอเชีย มาร์เก็ตแคปวูบ 1.26 ล้านลบ.ใน 4 เดือน หลังเป้ากำไรหด ตลท.ปรับเกณฑ์กดดัน

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 หุ้นของบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA พุ่งแรงแซงหน้าหุ้นของบริษัทอื่นทั่วโลก แต่ในปัจจุบันราคาหุ้น DELTA กลับดิ่งลงอย่างรุนแรง

DELTA "หุ้นดับ" ราคาร่วงแรงสุดในเอเชีย มาร์เก็ตแคปวูบ 1.26 ล้านลบ.ใน 4 เดือน หลังเป้ากำไรหด ตลท.ปรับเกณฑ์กดดัน

สรุปข่าว

แนวโน้มกำไรของ DELTA อาจจะยังคงกดดันราคาหุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 5% ในปี 2568 จากการที่รัฐบาลจะปรับอัตราภาษีเงินได้เฉลี่ยของบริษัทขึ้นเป็น 15% ทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้น DELTA ลงเกือบครึ่งหนึ่ง

จากราคาสูงสุดของ DELTA ที่อยู่ที่ 173.50 บาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Capitalization อยู่ที่ 2.16 ล้านล้านบาท ในขณะที่ราคาล่าสุด (27 มี.ค.68) อยู่ที่ 72.25 บาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 9.01 แสนล้านบาท คิดเป็นคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่หายไปถึง 1.26 ล้านล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 4 เดือน โดยที่ราคาเคยทำจุดต่ำสุด 52 สัปดาห์ที่ 66.75 บาท

หุ้นของ Delta ร่วงลงมากกว่า 50% ในปี 2568 ซึ่งถือเป็นการร่วงลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นของผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายอื่นๆของโลกที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์ก DELTA กลายเป็นหุ้นที่ตกต่ำที่สุดในดัชนี MSCI Asia Pacific

การร่วงลงของหุ้นที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ของหุ้นไทยที่ร้อนแรงอย่าง "สุดขั้ว" จากกระแสความนิยมด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ส่งผลให้มูลค่าหุ้นเพิ่มสูงขึ้น และการร่วงลงอย่างรุนแรงมีจุดเริ่มต้นจากที่หุ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และรุนแรงขึ้นไปอีกหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเสนอให้ปรับลดน้ำหนักในการคำนวนดัชนี และรายงานกำไรสุทธิต่ำกว่าที่คาด

บริษัทกำลังเผชิญกับ “อุปสรรคสำคัญต่อผลกำไรจากโครงสร้างต้นทุนที่เพิ่มขึ้น” และการเติบโตที่ชะลอตัว ยูกิ ทาเคชิมะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการเติบโตของ AI ไม่น่าจะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญให้กับเดลต้าในปี 2025 ตามที่ทาเคชิมะแนะนำในการขายหุ้นดังกล่าว

ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ Delta Electronics Inc. บริษัทแม่ของ DELTA ในไต้หวัน ผลิตส่วนประกอบสำหรับรถยนต์ และอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าสำหรับ Data Center รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ราคาหุ้นลดลง 23% เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ หลังจากรายงานรายได้สุทธิทั้งปีที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ บริษัทเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่ารายได้ในไตรมาสที่สี่ลดลงไปถึง 54%

ทางด้านแนวโน้มกำไรของ DELTA อาจจะยังคงกดดันราคาหุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 5% ในปี 2568 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาษีเงินได้ที่สูงขึ้น จากการที่รัฐบาลจะปรับอัตราภาษีเงินได้เฉลี่ยของบริษัทขึ้นเป็น 15% ทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้น DELTA ลงเกือบครึ่งหนึ่ง

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้กำหนดข้อจำกัดการซื้อขายหุ้นของเดลต้าในเดือนพฤศจิกายน เพื่อจำกัดการเก็งกำไรที่มากเกินไป รวมถึงยังได้เสนอให้จำกัดการถ่วงน้ำหนักหุ้นรายตัวในดัชนีหลัก เช่น SET50 หลังจากที่ราคาหุ้น DELTA มีความผันผวนสูง ส่งผลกระทบต่อดัชนีโดยรวม ทั้งนี้ในปัจจุบัน ราคาหุ้น DELTA คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 6% ของดัชนี SET Index ซึ่งลดลงจากประมาณ 12% ในเดือนพฤศจิกายน

avatar

มงคล เกษตรเวทิน

แท็กบทความ

DELTAบริษัทจดทะเบียนบทวิเคราะห์
หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
เดลต้า อีเลคโทรนิกส์