ทองคำใกล้แตะ 3,000 ดอลลาร์เร็วกว่าคาด นายกสมาคมค้าทองคำชี้ยังมีแนวโน้มขึ้นต่อ I WEALTH LIVE

ทองคำพุ่งทำสถิติใหม่ ก่อนปรับฐานเล็กน้อย


ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงเช้าของวันนี้ ก่อนที่จะมีการย่อตัวเล็กน้อย โดยนายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE ว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประเมินว่าระดับดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม

"ตอนนี้ราคาทองคำขึ้นมาสูงมาก และทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ก็มีการย่อลงมาเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเข้าซื้อ" นายจิตติกล่าว พร้อมเสริมว่า แม้จะมีการแกว่งตัวในระยะสั้น แต่แนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น

สรุปข่าว

ราคาทองคำโลกใกล้แตะ 3,000 ดอลลาร์ เร็วกว่าคาด หลังทำสถิติสูงสุดใหม่ก่อนย่อตัวเล็กน้อย นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ มองแนวรับที่ 2,975 ดอลลาร์ และคาดว่าปีนี้อาจเห็น 3,200 ดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงสะสมทองคำต่อเนื่อง นักลงทุนควรทยอยขายทำกำไรบางส่วน และรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐาน

แนวรับสำคัญและโอกาสทะลุ 3,000 ดอลลาร์


สำหรับแนวรับสำคัญของราคาทองคำโลก นายจิตติประเมินไว้ที่ 2,975 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาปรับลงไปที่ระดับดังกล่าว แต่ไม่ต่ำกว่านั้น ก็มีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง

"การปรับฐานครั้งนี้ไม่น่าลึกนัก เพราะปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนราคาทองคำ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย" นายจิตติกล่าว

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ นายจิตติมองว่าแนวรับอยู่ที่ 28,750 บาทต่อบาททองคำ โดยหากราคาย่อลงมา นักลงทุนสามารถทยอยเข้าซื้อสะสมได้

กองทุน-ธนาคารกลางทั่วโลกยังซื้อทองต่อเนื่อง

อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำคือ การเข้าซื้อทองคำของกองทุนขนาดใหญ่และธนาคารกลางหลายประเทศ ซึ่งกำลังเพิ่มปริมาณสำรองทองคำ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ที่อาจอ่อนค่าลงในอนาคต

"ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven) โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนสถาบันและธนาคารกลางจึงยังคงสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง"

ขายทำกำไรบางส่วน-ถือรอจังหวะ


สำหรับนักลงทุนที่ถือทองคำและมีกำไรอยู่แล้ว นายจิตติแนะนำว่า สามารถทยอยขายทำกำไรบางส่วนออกมาก่อนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องขายหมด

"หากราคาทองคำปรับตัวลง ก็สามารถเข้าซื้อเพิ่มได้อีกครั้ง การแบ่งขายเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เพราะแนวโน้มราคายังเป็นขาขึ้นอยู่"

ส่วนผู้ที่ลงทุนใน Gold Futures ควรระมัดระวัง เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ใช้ Leverage สูง หากราคาผันผวนแรงอาจกระทบพอร์ตลงทุนได้

ราคาทองรูปพรรณ-ค่าเงินบาท: ปัจจัยที่ต้องติดตาม


ด้านราคาทองรูปพรรณในประเทศมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามราคาทองคำโลก โดยได้รับอิทธิพลจากค่าเงินบาท ซึ่งหากเงินบาทอ่อนค่าจะช่วยหนุนราคาทองคำในประเทศให้สูงขึ้น

ร้านทองยังคงปริมาณสต๊อกเท่าเดิม แม้ราคาพุ่งสูง


เมื่อถามถึงผลกระทบของราคาทองคำที่พุ่งสูงต่อร้านทองในประเทศ นายจิตติระบุว่า ร้านทองไม่ได้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นจากราคาที่สูงขึ้นโดยตรง เนื่องจากส่วนใหญ่ปรับสมดุลปริมาณทองคำที่มีอยู่ในสต๊อกทุกวัน

"มูลค่าทองคำในสต๊อกอาจเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าร้านทองจะมีกำไรเพิ่มขึ้นทันที เพราะทองคำที่อยู่ในสต๊อกจะถูกปรับตามน้ำหนักที่ซื้อขายทุกวัน"

ฟองสบู่ทองคำ? ยังไม่ใช่ตอนนี้


สุดท้าย นายจิตติกล่าวถึงความเสี่ยงที่ราคาทองคำอาจเกิดภาวะฟองสบู่ว่า ปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจน เพราะราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานหลายด้าน

"ถ้าเศรษฐกิจโลกยังไม่แน่นอน และธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเพิ่มการถือครองทองคำ ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะไปต่อ อย่างน้อยปีนี้น่าจะเห็นระดับ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นอย่างต่ำ"

สรุปแนวโน้มทองคำ

  • แนวรับสำคัญ: 2,975 ดอลลาร์ต่อออนซ์ / 28,750 บาทต่อบาททองคำ
  • แนวต้านถัดไป: 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจไปต่อถึง 3,200 ดอลลาร์ภายในปีนี้
  • กลยุทธ์: ทยอยขายทำกำไรบางส่วน รอจังหวะเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาย่อตัว
  • ปัจจัยหนุน: ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ, สงครามยูเครน-รัสเซีย, การเข้าซื้อของธนาคารกลาง
  • ความเสี่ยง: ความผันผวนในตลาดฟิวเจอร์ส, การตัดสินใจของ Fed เรื่องดอกเบี้ย

นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ลงทุนทองคำในช่วงที่ตลาดกำลังร้อนแรง

avatar

null null
(yurapong_yus)