ทองคำพุ่งแรง ควรถือต่อลุ้น 3,000 เหรียญไหม ? I WEALTH LIVE

ทองคำพุ่ง! ลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ทะลุ 3,000 ดอลลาร์?

ราคาทองคำกำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ โดยนายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE ว่าทองคำมีโอกาสสูงที่จะทะลุ 3,000 ดอลลาร์ในระยะเวลาอันใกล้นี้

สรุปข่าว

ราคาทองคำกำลังเป็นที่จับตามอง หลังมีโอกาสทะลุแนวต้าน 3,000 ดอลลาร์ในเร็วๆ นี้ โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนควรจับตาแนวรับ-แนวต้านสำคัญ

ปัจจัยหนุนทองคำพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญ

นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าวว่า ราคาทองคำปรับฐานลงมาเป็นครั้งที่ 2 ที่บริเวณ 2,900 ดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาทองในรอบนี้คือ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งได้รับการยืนยันจากทั้ง JP Morgan และ Goldman Sachs

นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการขึ้นภาษี ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ลดลงจาก 105 มาอยู่ที่ 103.5 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแรงส่งสำคัญให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น

แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุนทองคำ

ในแง่ของแนวโน้มทางเทคนิค นายแพทย์กฤชรัตน์ระบุว่า หากราคาทองคำสามารถเบรกแนวต้านสำคัญที่ 2,955 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ นักลงทุนควรซื้อเพิ่มที่บริเวณ 2,960 ดอลลาร์ และหากปรับฐานลงมา ราคาที่น่าสนใจในการเข้าซื้อคือ 2,930 ดอลลาร์

สำหรับราคาทองคำในประเทศ ปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ 47,000 บาทต่อบาททองคำ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 46,700 บาท หากราคาทองคำโลกสามารถทะลุ 3,000 ดอลลาร์ ราคาทองไทยอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 800 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทก็เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองในประเทศ

SPDR ส่งสัญญาณเชิงบวก ทองคำยังเป็นขาขึ้น

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาทองคือ กองทุน SPDR ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในตลาดทองคำ กลับเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นที่บริเวณ 2,920 ดอลลาร์ โดยล่าสุดได้ซื้อทองคำเพิ่มอีกกว่า 3 ตัน ส่งสัญญาณเชิงบวกว่าราคาทองคำมีโอกาสขึ้นต่อ และมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดการปรับฐานแรงในรอบนี้

คำแนะนำสำหรับนักลงทุน

นายแพทย์กฤชรัตน์แนะนำว่า นักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ควรพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนเมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาก และเมื่อราคาปรับฐานลงมา ควรเข้าซื้อสะสมตามแนวรับที่กำหนด พร้อมทั้งแนะนำให้ใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุนใน Gold Futures ควรระมัดระวังเรื่องการใช้ Leverage มากเกินไป

เป้าหมายราคาทองปีนี้

ในมุมมองของปี 2025 หากราคาทองคำโลกสามารถขึ้นไปถึง 3,150 – 3,200 ดอลลาร์ ราคาทองคำในไทยมีโอกาสแตะระดับ 48,000 – 50,000 บาทต่อบาททองคำในช่วงปลายปี

นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะหากทองคำสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ การเคลื่อนไหวของราคาทองในปีนี้จะยิ่งน่าสนใจมากขึ้น

avatar

null null
(yurapong_yus)