สงครามภาษี ถล่มเศรษฐกิจโลก ? I WEALTH LIVE 5 มีนาคม 2568

คุณนิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันการลงทุน QIQP บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน)  ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 5 มีนาคม 2568 ว่าสงครามการค้าในระดับโลกที่เกิดจากการกำหนดกำแพงภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้หลายประเทศต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยประเทศไทยเองก็อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายเหล่านี้ แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนแน่ชัดว่าผลกระทบที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร

ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ระบบเศรษฐกิจโลกดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับมาเป็นเวลากว่า 70 ปี อย่างไรก็ตาม นโยบายของทรัมป์ทำให้กฎเกณฑ์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน ส่งผลให้ทั้งภาคธุรกิจและนักลงทุนทั่วโลกเกิดความสับสน และไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตได้


สรุปข่าว

สงครามการค้าและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีกำลังส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าผลกระทบที่แน่ชัดต่อประเทศไทยยังไม่สามารถระบุได้ แต่แน่นอนว่าความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อการตัดสินใจของภาคธุรกิจและนักลงทุน ดังนั้น การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่นี้

AI และเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงาน

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กำลังส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกคือการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ ซึ่งค่อยๆ เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิตสินค้าไปจนถึงภาคบริการ ทำให้รูปแบบการบริโภคและการทำงานของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

สำหรับประเทศไทย แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่เติบโตในระดับสูง แต่ประเทศยังคงมีความมั่นคงในด้านทรัพยากรและอาหาร ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ประเทศไทยยังคงสามารถดำรงอยู่ได้โดยอาศัยความสามารถในการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานและการบริโภคอาจทำให้ตัวเลขนี้มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้าหรือความผันผวนของตลาดหุ้นโลก เข้ามากระทบ


ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงขาลง โดยคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นไทย อาจลดลงถึงระดับ 1,000 จุด ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบหลายปี นักลงทุนจึงควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคงสูง เช่น กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหารและยารักษาโรค

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปที่อยู่ในระดับราคาสูงและเริ่มส่งสัญญาณปรับฐาน นักลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัทให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

avatar

null null
(yurapong_yus)