ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันหนัก I WEALTH LIVE

วันที่ 3 มีนาคม 2568 คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ  กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE  ถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันหนัก ล่าสุดดัชนียังไม่มีสัญญาณรีบาวด์ ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

สรุปข่าว

ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันจากการขาดแรงซื้อ ความเชื่อมั่นต่ำ และปัจจัยต่างประเทศที่ไม่แน่นอน แม้ว่ามูลค่าหุ้นจะอยู่ในระดับที่น่าสนใจ แต่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน นักลงทุนควรจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุน

ตลาดขาดแรงซื้อ – ความเชื่อมั่นต่ำสุดในรอบหลายปี 

ซึ่งในอดีตเมื่อดัชนีหุ้นปรับตัวลงมาถึงระดับหนึ่ง มักจะมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนรายใหญ่หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้น แต่ครั้งนี้ตลาดหุ้นไทยกลับถูกเทขายอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีแรงซื้อกลับมาแต่อย่างใด

 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ในระดับต่ำมาก แม้ว่าในแง่ของมูลค่าทางพื้นฐาน (valuation) ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในจุดที่น่าสนใจ โดยอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) อยู่ที่ประมาณ 14-15 เท่า และอัตราผลตอบแทนจากกำไรต่อราคาหุ้น (Earnings Yield) อยู่ที่ 6.7-6.8% ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปีที่ต่ำกว่า 2%


ดอกเบี้ยลดลงแต่ยังไม่ช่วยตลาด – รอปัจจัยพื้นฐานหนุน

แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะเริ่มส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ มองว่าการลดดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้อาจไม่สามารถกระตุ้นตลาดได้อย่างที่ควรเป็น เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ช้าเกินไป

ปัจจัยสำคัญที่อาจช่วยพยุงตลาดในระยะต่อไปคือ ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยรายงานออกมา ซึ่งแม้จะมีสัญญาณดีขึ้นบางส่วน แต่ยังไม่มากพอที่จะเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพ


 ในด้านแนวรับของตลาด คุณประกิตประเมินว่าดัชนีหุ้นไทย (SET Index) มีโอกาสยืนเหนือระดับ 1,100-1,150 จุดได้ หากไม่มีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากเกิดปัจจัยเสี่ยงใหม่ ๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างประเทศ หรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ก็อาจกดดันให้ตลาดปรับตัวลงไปมากกว่านี้

หุ้นแนะนำ – กลุ่มการเงินยังมีโอกาสเติบโต

แม้ว่าสภาพตลาดจะไม่เอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง  คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ มองว่า หุ้นในกลุ่มการเงินยังมีโอกาสเติบโตได้

สำหรับนักลงทุนที่มองหาจังหวะเข้าซื้อ ควรรอให้มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนก่อน หรือเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีอัตราปันผลที่ดี


avatar

null null
(yurapong_yus)