"ปรับกลยุทธ์การลงทุนด้วย Beta" WEALTH STORY I WEALTH LIVE

การปรับใช้กลยุทธ์การลงทุนในการบริหารพอร์ตการลงทุน สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายกลยุทธ์ ซึ่งแต่ละกลยุทธ์ก็สามารถที่จะตอบโจทย์การลงทุนได้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เราจะมาทำความรู้จักกับการใช้กลยุทธ์ “Beta” ในการบริหารพอร์ตการลงทุน

สรุปข่าว

ค่า Beta ของหุ้นนั้น เป็นเครื่องมือที่ใช้ชี้วัดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกับตลาดโดยรวมว่ามีทิศทางอย่างไร แต่ค่า Beta นั้นเป็นข้อมูลที่ถูกคำนวณมาจากการเคลื่อนไหวในอดีต ซึ่งในอนาคตราคาของหุ้นตัวนั้นอาจจะเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปได้ ตามปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อหุ้นตัวนั้น เพราะฉะนั้นการใช้กลยุทธ์ Beta เรายังคงจำเป็นที่จะต้องศึกษาพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นควบคู่ไปด้วย

ค่า Beta เป็นค่าที่บอกว่าหุ้นตัวนั้น มีการเคลื่อนไหว หรือความผันผวนมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโดยรวม เช่น หุ้น XXX มีค่า Beta เท่ากับ 1.20 เท่า แปลว่า ถ้า SET Index บวก 1% หุ้น XXX จะบวก 1.20% เป็นต้น ซึ่งหุ้นแต่ละตัวจะมีค่า Beta ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความผันผวนและทิศทางเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโดยรวม

ค่า Beta สามารถนำมาแบ่งหุ้นออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ หุ้นที่มีความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด หุ้นในกลุ่มนี้ เมื่อตลาดมีทิศทางเป็นบวก หุ้นก็จะปรับตัวเป็นบวก แต่ในทางตรงกันข้าม หากตลาดปรับตัวลง หุ้นก็จะปรับตัวลงด้วย แต่จะปรับมากกว่า หรือน้อยกว่าตลาด ให้เราดูที่ค่า Beta

โดยหากค่า Beta มีค่ามากกว่า 1 หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะปรับตัวมากกว่าตลาด และถ้าค่า Beta มีค่าเท่ากับ 1 หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะเคลื่อนไหวเท่ากับตลาด ส่วนถ้าค่า Beta น้อยกว่า 1 หุ้นตัวนั้นก็จะเคลื่อนไหวน้อยว่าตลาดนั่นเอง

ในขณะที่หุ้นอีกกลุ่มจะเป็นหุ้นที่ไม่มีความสัมพันธ์กับตลาด และมีทิศทางสวนทางกับตลาด ซึ่งเป็นกลุ่มที่หาได้ค่อนข้างยาก โดยค่า Beta ของหุ้นในกลุ่มนี้ ถ้าหากมีค่าอยู่ที่ 0 หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะมีเคลื่อนไหวโดยไม่สัมพันธ์กับตลาด ไม่วาตลาดจะเคลื่อนไหวในทางใด

ส่วนหุ้นที่มีค่า Beta ติดลบ หมายความว่าหุ้นตัวนั้นจะเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาด เช่น เมื่อตลาดปรับตัวลดลง หุ้นในกลุ่มนี้จะปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกันเมื่อตลาดปรับตัวสูงขึ้น หุ้นตัวนี้จะปรับตัวลดลง แต่จะสวนทางกับตลาดมากแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับค่า Beta ว่าติดลบมากน้อยเพียงใด

เมื่อรู้จักกับค่า Beta ของหุ้นแล้ว เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการบริหารพอร์ตการลงทุนได้ เช่นหากทิศทางของตลาดเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน เราอาจจะเลือกซื้อหุ้น หรือปรับสัดส่วนให้มีหุ้นในกลุ่มที่มีค่า Beta สูง ๆ เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่าตลาด แต่ถ้าหากตลาดมีทิศทางเป็นขาลง เราก็อาจจะเพิ่มสัดส่วนหุ้นที่มีค่า Beta ที่น้อยกว่าตลาด หรืออาจจะมีค่า Beta ที่ติดลบ เพื่อลดโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาด หรืออาจจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ด้วย

avatar

null null
(yurapong_yus)